phithan-toyota.com | พิธานพาณิชย์ จำกัด ศูนย์บริการและจำหน่ายรถยนต์โตโยต้าทุกรุ่น

บทความ

พึงระวัง สำหรับ ขับล้อหน้า

หมวด ลักษณะปัญหาที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ | จำนวนคนอ่าน 44073 ครั้ง | เมื่อ : 07 ก.พ. 2550 | ส่งบทความนี้ให้เพื่อน

รถยนต์แต่ละคันกว่าจะได้มาแสนยากลำบาก การบำรุงรักษาตลอดการใช้งานอาจจะยากกว่าและในบทความที่จะกล่าวถึงนี้ จะอยู่ในส่วนของการขับเคลื่อนนั่นก็คือ "เพลาขับ"

 

 

 

 

 

 

 

ชิ้นส่วนดังกล่าว  จะถูกติดตั้งอยู่ระหว่างชุดเกียร์กับล้อ  การหมุนของเพลาขับจะเท่ากับการหมุนของล้อ  การทำงานถือว่าหนักมาก และสำคัญมาก ซึ่งสาระสำคัญไม่เกี่ยวกับการหมุนของล้อแต่อย่างใด  แต่จะกล่าวถึงในส่วนที่พึง 
ระวัง คือ "การเลี้ยวในวงแคบ"   
 
แล้วรู้ได้อย่างไรว่าเป็นรถขับเคลื่อนล้อหน้า ?  

ในรถยนต์โตโยต้า มีด้วยกันหลายรุ่น นับตั้งแต่ ปี ค.ศ.1990 เป็นต้นมา  
 -   CORONA
 -   COROLLA
 -   CAMRY
 -   VIOS  
 -   SOLUNA
 -   YARIS 
 -   CELICA  

ข้อพึงระวังดังกล่าว  ไม่เพียงแต่ในรถยนต์โตโยต้าเท่านั้น  แต่รวมถึงรถยนต์ ยี่ห้ออื่นที่เป็นแบบขับเคลื่อนล้อหน้าด้วยเช่นกัน  ในการเลี้ยวหรือกลับรถในพื้นที่แคบ  ผู้ขับขี่แต่ละท่านการขับขี่ไม่เหมือนกัน  เช่น ช้าบ้าง-เร็วบ้าง หรือตีวงกว้าง-ตีวงแคบ แตกต่างกันไป  แต่ในสภาพการจราจรที่แออัด จำเป็นที่จะต้องเร่งรีบ เลยทำให้ส่งผลถึงตัว "เพลาขับ" นั่นเอง   
 
เอ๊ะ ! แล้วเกี่ยวกับเพลาขับตรงไหน ?  

การที่เลี้ยว หรือ กลับรถในที่แคบแล้วไหนจะรีบอีก  (คันหลังจะต่อว่าเอา)  เลยทำให้รีบหักพวงมาลัย  แล้วเร่งเครื่องอย่างรวดเร็ว  ด้วยเหตุผลนี้  เพลาขับ  (ด้านติดล้อ) จะถูกหักเลี้ยวตามการเลี้ยว  ลูกปืนที่หัวเพลาจะเกิดการบิดตัวภายในอย่างรุนแรง  ซึ่งจะทำให้เกิดการสึกหรอสูง  ถ้ากระทำเช่นนี้บ่อยๆ จะทำให้หลวมคลอนเร็วกว่าการใช้งานปกติ  ซึ่งจะไม่เป็นผลดีเท่าไรต่อท่านเจ้าของรถ  การซ่อมบำรุง  หรือเปลี่ยน  จะมีราคาค่อนข้างสูง  ดังนั้น  ในการเลี้ยวแต่ละครั้งให้คำนึงถึงจุดนี้ด้วย

อีกจุดหนึ่งที่จะชำรุดก่อน ก็คือ "ยางกันฝุ่นเพลาขับ" ตัวที่ติดล้อนั่นแหล่ะ ยางกันฝุ่นเป็นยาง ย่อมมีอายุการใช้งานเหมือนยางทั่วๆไป  แต่ถ้ามีการเลี้ยวเหมือนข้อความข้างต้น  ก็จะทำให้ฉีกขาดเร็ว  ในเมื่อฉีกขาดเร็วก็จะทำให้สารหล่อลื่น (จาระบี)  หลุดออกจากชุดลูกปืนหัวเพลา  และเมื่อเป็นเช่นนี้  หัวเพลาจะได้รับความเสียหายอย่างแน่นอน   ดังนั้น  เมื่อยางกันฝุ่นเพลาขับตัวใดตัวหนึ่งขาด ให้รีบซ่อมโดยด่วน มิฉะนั้น จะส่งผลให้เพลาหลวมคลอนได้ และเปลี่ยนในที่สุด  
 
จะรู้ได้อย่างไรว่า ยางกันฝุ่นเพลาขับชำรุด หรือ ฉีกขาด ?  

โดยทั่วไปแล้ว ยางกันฝุ่นเพลาขับตัวนอก (ด้านติดล้อ) จะขาดก่อน ให้สังเกตว่ามีคราบจาระบี หรือ สิ่งสกปรกติดอยู่ทางด้านในของล้อนั้นๆ แสดงว่าขาดแน่นอน แต่จะให้ชัวร์เลย ก็ให้ก้มลงดูใต้ท้องรถก็จะทราบว่ามาจากจุดใด หรือ ให้ช่างผู้ชำนาญงานตรวจสอบก็จะดียิ่งขึ้น   
 
และมีวิธีใดที่ช่วยให้การใช้งานยาวนาน ?  

 1.   เลี้ยวรถ หรือ กลับรถด้วยความเร็วต่ำ  
 2.   ให้ตีวงเลี้ยวกว้าง (ถ้าเป็นไปได้)  
 3.   หลีกเลี่ยงการหักพวงมาลัยสุด หรือ หักเลี้ยวสุดขณะรถเคลื่อนที่  
 4.   ตรวจสภาพยางกันฝุ่นเพลาขับสม่ำเสมอ (เริ่มชำรุดเปลี่ยนทันที)  
 5.   ตรวจสอบสารหล่อลื่น (จารบี) ในเพลาขับ อันนี้ตรวจสอบเองลำบาก คงให้ช่างตรวจสอบ  
 

*** เพียงเท่านี้ เพลาขับของท่านก็จะอยู่ตราบนานเท่านาน ตลอดอายุการใช้งานครับ *** 
 


 ด้วยความปรารถนาดีจาก  
 แผนกเทคนิคและฝึกอบรม  
 บริษัท พิธานพาณิชย์ จำกัด (กรุงเทพฯ)

 

 

 

หมวด ลักษณะปัญหาที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ | จำนวนคนอ่าน 44073 ครั้ง | เมื่อ : 07 ก.พ. 2550 | ส่งบทความนี้ให้เพื่อน

    แสดงความคิดเห็น (1)

  • ความเห็นที่ 1
  • ละถ้าเป็นระบบขับเคลื่อนล้อหลังละครับ จะต้องทำตามแบบที่ว่าไหมครับ
  • จาก : kaeko
  • เมื่อ : 2009-02-26 08:09:53

NEW Hilux Champ ราคาเริ่มต้น 459,000 บาท