phithan-toyota.com | พิธานพาณิชย์ จำกัด ศูนย์บริการและจำหน่ายรถยนต์โตโยต้าทุกรุ่น

บทความ

CAMRY MINORCHANGE 2015

หมวด Camry Hybrid | จำนวนคนอ่าน 7342 ครั้ง | เมื่อ : 18 มี.ค. 2558 | ส่งบทความนี้ให้เพื่อน

 

CAMRY MINORCHANGE 2015

    ในรถยนต์นั่งขนาดกลางที่ได้รับความนิยมอย่างสูง เช่น “Camry” มีการตอบรับได้เป็นอย่างดี จากผู้บริโภค ทางโตโยต้าเองก็ไม่หยุดยั้ง ที่จะมีการพัฒนาด้านต่างๆ เพื่อตอบโจทย์ หรือความต้องการแก่ผู้ที่ใช้รถยนต์โตโยต้าเหล่านั้น และในปี 2558 (2015)  รถยนต์นั่งขนาดกลาง อย่าง Camry จะมีความเหนือระดับไปอีกขั้น โดยมีการพัฒนา ความสบายทุกการขับขี่, มีความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงที่ดีเยี่ยม, ความเงียบที่เหนือระดับ, อุปกรณ์อำนวยความสะดวกตอบสนองทุกความต้องการ, อุปกรณ์ความปลอดภัยระดับสูง และสิ่งต่างๆ อีกมากมาย ใน Camry Minor Change 2015
    สิ่งที่ได้พัฒนาปรับปรุงของ Camry Minor Change ในแต่ละรุ่นนั้น ทางผู้เขียนไม่รอช้าขอเริ่มจาก รุ่นที่มีราคาจำหน่ายที่เริ่มต้นก็แล้วกันนะครับ


2.0 G    - เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตรใหม่ 6AR-FSE VVT-iW    ซึ่งมีการพัฒนาไปอีกขั้นของกลไกขับวาล์ว เพิ่มประสิทธิภาพทางด้านการ เปิด – ปิด วาล์ว เป็นผลให้การเผาไหม้หมดจด เหมาะสมยิ่งกว่า ได้กำลังอย่างเต็มที่ เพิ่มแรงบิด, ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง และมลพิษต่ำ นอกจากนั้น ยังมีการฉีดเชื้อเพลิง D-4S SFI (Direct Injection 4 Stroke Sequential Multi port Fuel Injection)
ทำให้มีกำลังที่ยอดเยี่ยม, ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงยิ่งกว่า เครื่องยนต์เดินเงียบเป็นพิเศษอีกด้วย ซึ่งผลที่ออกมาทำให้ทางมลพิษทางไอเสียผ่านมาตรฐาน Euro IV เป็นผลดีต่อสิ่งที่มีชีวิตและสิ่งแวดล้อม
    - ทางด้านระบบส่งกำลังก็เปลี่ยนใหม่จาก 4 สปีด เป็น 6 สปีด แถมพ่วงมาด้วย Sequential Shift ให้ด้วย เพื่อความสะดวกสบาย, ขับสนุก และมีความปลอดภัย
    - ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน DRL (Day time Running Light) เพื่อเพิ่มโอกาสการมองเห็นแก่ผู้ที่ร่วมใช้เส้นทาง ทำให้มีความปลอดภัยเพิ่มขึ้น   นอกจากนั้นยังมีความสวยงามเล็กๆน้อยๆ
    -  สัญญาณกะระยะด้านท้ายและมุมกันชน มีมาให้ครบ รอบตัวรถ เรียกได้ว่าไม่ต้องติดตั้งเพิ่ม
    -  ระบบช่วยเตือนรถขณะถอย RCTA (Rear Cross Traffic Alert) ซึ่งเป็นระบบใหม่ จะทำงานขณะที่มีรถวิ่งตัดท้ายรถขณะถอยรถ โดยมีการแจ้งให้ทราบในรูปแบบของเสียงเตือน ช่วยเพิ่มความปลอดภัย กรณีถอยรถออกจากช่องจอดรถ
    -  หน้าจอ MID TFT ขนาด 4.2 นิ้ว สำหรับข้อมูลต่างๆที่จะแสดงขึ้นมา มองเห็นอย่างชัดเจน
    -  ไฟเรืองแสงบริเวณมือจับ และพื้นรถ
    -  ถุงลมนิรภัย ด้านหน้า 2 ข้าง (ปกติ) เพิ่มทางด้านข้างอีก 2 จุด
    - ไฟเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal) เป็นระบบใหม่ ที่ช่วยทางด้านความปลอดภัย ถ้ามีการเบรกแบบกะทันหันแต่ไฟเลี้ยว (ฉุกเฉิน) กะพริบ
    - ระบบช่วยเตือนในจุดอับสายตา BSM (Blind Spot Monitor) เป็นระบบใหม่ที่ช่วยเตือนผู้ขับว่ามีรถในมุมบอดข้างตัวรถ ให้การยืนยัน แก่ผู้ขับว่าในมุมบอดมีรถอยู่ ถ้าต้องการเปลี่ยนเลน หรือช่องทางวิ่งของรถ
    -  ระบบออกตัวบนทางลาดชัน HAC (Hill Start Assist Control) คือการพัฒนาไปอีกขั้นของการออกตัวบนทางลาดชัน เป็นระบบช่วยการออกตัวของรถขณะหยุดบนทางลาดชันได้ง่ายขึ้น เพราะจะมีการตรวจสอบความเอียงของตัวรถและแรงขับเคลื่อนของเครื่องยนต์ หากไม่เพียงพอ จะมีการป้องกันไม่ให้รถเคลื่อนที่กับความต้องการเคลื่อนที่ ระบบจะมีการหน่วงเอาไว้ให้เอง โดยที่ไม่ต้องเหยียบเบรก
    -  แท่นชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย (Q1) เป็นระบบใหม่ โดยที่วางโทรศัพท์มือถือไว้ตามที่กำหนด ก็สามารถชาร์จไฟให้กับมือถือได้อย่างชาญฉลาดและเต็มได้ภายในเวลา แค่ 30 นาที
    -  ม่านหน้าต่างประตูคู่หลัง จากที่ไม่มีมาในรุ่นก่อน ก็เติมเต็มให้กับรุ่นใหม่ไปเลย


2.0 G Extremo เป็นรุ่นที่มีความโดดเด่น พร้อมกับโฉบเฉี่ยวอย่างเหนือความคาดหมายอย่างยิ่ง มีความแตกต่างจากรุ่น 2.0 G   อย่างมาก เช่น
    -  ชุดสเกิรต์รอบคัน, สัญลักษณ์เฉพาะ มาพร้อมกับพรมอย่างดีเอกลักษณ์เฉพาะ
    -  ไฟท้ายรมดำ ส่วนไฟหน้าเหมือนกับรุ่นทั่วไป
    -  ภายในสีดำ พร้อมเย็บตะเข็บสีแดง ไม่เว้นแม้กระทั่งคอนโซลหน้า
    -  เครื่องเล่น DVD ลำโพง JBL เทคโนโลยี Green Edge พร้อม Sub Woofer และ Power Amp
    -  พวงมาลัยหนังเย็บด้วยด้ายแดง แบบ 3 ก้าน มาพร้อมกับการเปลี่ยนเกียร์บนพวงมาลัยได้ (Paddle Shift)
    -  ล้ออัลลอยด์ ขนาด 17 นิ้ว ดีไซน์ใหม่ (เงาตัดดำ)
    -  ท่อไอเสีย แบบคู่ (แยกซ้าย-ขวา)
- เพื่อการมั่นใจและมั่นคงของการขับขี่ เพราะมีกันโคลงแบบสปอร์ต (Performance Damper) บริเวณหัวโช๊คหน้า  ที่ทันสมัย


2.5 G  สำหรับรุ่นนี้ ก็มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมาย แตกต่างไปจากรุ่นเดิมอย่างสิ้นเชิง เลยทีเดียว ได้แก่
    -  ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน DRL (Daytime Running Light)
    -  ระบบช่วยเตือนรถขณะถอย RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
    -  หน้าจอ MID TFT ขนาด 4.2 นิ้ว
    -  จอแสดงภาพ พร้อมกล้องมองหลัง
    -  ไฟเรืองแสงที่บริเวณมือจับ และพื้นรถ
    -  ถุงลมนิรภัย 4 จุด
    -  ถุงลมนิรภัย บริเวณหัวเข่าผู้ขับขี่
    -  ไฟเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal)
    -  ระบบช่วยเตือนในจุดอับสายตา BSM (Blind Spot Monitor)
    -  ระบบออกตัวบนทางลาดชัน HAC (Hill Start Assist Control)
    -  ระบบนำทาง Navigator
    -  แท่นชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย (Q1)
    -  ม่านหน้าต่างประตูหลัง
    -  ม่านถุงลมนิรภัย 2 ข้าง
    -  ลำโพง JBL 10 ตำแหน่ง เทคโนโลยี Green Edge พร้อม Sub Woofer และ Power Amp


2.5 HV CD สำหรับรุ่นนี้ เป็นรุ่นไฮบริดแต่เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ที่มีราคาจำหน่ายย่อมเยา ดังนั้น สิ่งที่ได้มากับตัวรถถือว่า ไม่ธรรมดาเพราะโตโยต้า ก็จัดเต็ม
-  ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน DRL (Daytime Running Light)
-  ระบบช่วยเตือนรถขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
-  หน้าจอ MID TFT ขนาด 4.2 นิ้ว
-  ระบบปรับอากาศ Nanoe เป็นการฟอกอากาศด้วยประจุไฟฟ้า ลดโอกาสของการติดเชื้อโรค และระบบทางเดินหายใจ
-  ม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง
-  ถุงลมนิรภัยบริเวณหัวเข่าผู้ขับขี่
-  ไฟเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal)
-  ระบบช่วยเตือนในจุดอับสายตา BSM (Blind Spot Monitor)
-  แท่นชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย (Q1)
-  เบาะหนังพิเศษ แบบ Smooth Leather


2.5 HV DVD NAVI รุ่นนี้สำหรับผู้ที่ชื่นชอบในระบบนำทาง ซึ่งไม่ใช่มีแค่ระบบนำทางเท่านั้น ยังมีสิ่งที่เหนือระดับ เข้าไปอีก
-  เครื่องเล่น DVD ที่มีระบบนำทาง ลำโพง JBL 10 ตำแหน่ง เทคโนโลยี Green Edge พร้อม Sub Woofer และ Power Amp
-  เบาะหนังแบบ Smooth Leather
-  ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน DRL (Daytime Running Light)
-  ระบบช่วยเตือนรถขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
-  หน้าจอ MD TFT ขนาด 4.2 นิ้ว
-  จอแสดงภาพ พร้อมกล้องมองหลัง
-  ระบบปรับอากาศ Nanoe
-  ถุงลมนิรภัย บริเวณหัวเข่าผู้ขับขี่
-  ไฟเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal)
-  ระบบช่วยเตือนในจุดอับสายตา BSM (Blind Spot Monitor)
-  ระบบนำทาง
-  แท่นชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย (Q1)
-  ม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง


2.5 HV DVD NAVI PREMIUM  สุดยอดเทคโนโลยีอันล้ำหน้าอย่างเหนือระดับ ได้บรรจงสรรค์สร้าง เพื่อให้การเดินทางเป็นไปอย่างสมบูรณ์สูงสุด สิ่งที่มีความแตกต่างไปจากรุ่นอื่นๆ อย่างชัดเจน  ได้แก่
-  ระบบควบคุมระยะห่างจากรถคันหน้า DRC (Dynamic Radar Cruise Control) ด้วยคลื่นเรดาร์โดยอัตโนมัติ ช่วยให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ลดโอกาสการขับชนท้ายรถคันหน้าโดยอัตโนมัติ แถมยังสามารถตั้งค่าระยะห่างได้อีกด้วย
-  ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Auto High Beam จะมีการตรวจจับด้วยกล้องที่อยู่บริเวณกระจกบังลมหน้า จะทำการตรวจจับแสงไฟด้านหน้ารถ หากผู้ขับเปิดใช้ระบบไฟสูงโดยอัตโนมัติ ผู้ขับไม่ต้องกังวลกับการปรับไฟหน้า ซึ่งจะไม่รบกวนผู้ร่วมใช้เส้นทาง เป็นการเพิ่มทัศนวิสัยในการเดินทางยามค่ำคืน
-  ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDA (Lane Departure Alert) ช่วยเตือนผู้ขับขณะมีอาการง่วงนอน หรือไม่พร้อมในการควบคุมรถ เพื่อไม่ให้รถเบี่ยงเลนเฉี่ยวชน หรือตกข้างทาง โดยมีการทำงานโดยกล้องตรวจจับแนวเส้นทาง ช่องทางวิ่งที่อยู่บนถนน ระบบจะทำการเตือนผู้ขับขี่ด้วยเสียง และภาพแสดงบนจอที่มาตรวัด ผู้ขับขี่สามารถทำความเข้าใจแบบไม่ยากนัก
-  ระบบเตือนก่อนการชน Pre-Crash  เป็นระบบเสริมความปลอดภัยก่อนการชน ลดโอกาสการชน ลดความรุนแรงของการชน จะมีการตรวจจับโดยเรดาร์ ที่อยู่บริเวณหน้ารถ และมีการประมวลผล จากนั้นระบบก็จะทำงานให้โดยอัตโนมัติ ตามเงื่อนไขที่กำหนดโดยทันที


ตามที่กล่าวมาทั้งหมดแล้วนั้น จะเห็นได้ว่า CAMRY มีการเปลี่ยนแปลงที่เหนือระดับเติมแต่งทุกความต้องการของผู้บริโภคตลอดจนมีความปลอดภัยสูงสุด หากท่านผู้อ่านมีข้อสงสัยอื่นใด สามารถติดต่อกับทางเรา บริษัท พิธานพาณิชย์ จำกัด(กรุงเทพฯ) ได้ทุกสาขา ที่เบอร์โทรศัพท์ 02-888-2999 หรือ www.phithan-toyota.com หรือทุกช่องทางของเราครับ.

                                                                   .....ขอบคุณและสวัสดีครับ......

“CAMRY MINORCHANGE 2015”
โดย  ฝ่ายฝึกอบรม บริษัท พิธานพาณิชย์ จำกัด (กรุงเทพฯ)

 

หมวด Camry Hybrid | จำนวนคนอ่าน 7342 ครั้ง | เมื่อ : 18 มี.ค. 2558 | ส่งบทความนี้ให้เพื่อน

HIACE ราคาเริ่มต้น 1,019,000 บาท