phithan-toyota.com | พิธานพาณิชย์ จำกัด ศูนย์บริการและจำหน่ายรถยนต์โตโยต้าทุกรุ่น

บทความ

คลายข้อสงสัย ในเรื่อง “แบตเตอรี่”

หมวด ข้อมูล-ความรู้ทางเทคนิค | จำนวนคนอ่าน 2603 ครั้ง | เมื่อ : 26 ก.ค. 2560 | ส่งบทความนี้ให้เพื่อน

      ท่านเจ้าของรถยนต์บางท่าน ยังมีความสงสัยอยู่ว่า เมื่อนำรถเข้าทำการตรวจเช็ค  หรือทำการบำรุงรักษาตามระยะทางพร้อมกันนั้นรถยนต์ก็ได้ใช้งานที่เป็นปกติ  แต่พอเจ้าหน้าที่ของศูนย์บริการทำการตรวจเช็คแล้วนั้น  ได้ทำการเสนอให้เปลี่ยนแบตเตอรี่   เลยทำให้สงสัยว่า     “มันเสียจริงหรือ”   ในกรณีอย่างนี้ขอเรียนว่า  ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบโดยใช้เครื่องมือพิเศษในการตรวจเช็คครับ  ซึ่งจะได้ค่าต่างๆออกมา  (จะกล่าวในลำดับต่อไป) เป็นการบ่งบอกถึงประสิทธิภาพด้านการทำงานครับ

ดังนั้น เพื่อความเข้าใจและความกระจ่าง
ทางฝ่ายจึงได้จัดทำความหมายและรายละเอียดต่างๆ ให้ทราบโดยสังเขป  ดังต่อไปนี้ครับ

BATTERY TEST
       บ่งบอกถึงสภาพของแบตเตอรี่  ว่ามีการชาร์จไฟฟ้าเต็มเป็นปกติหรือไม่  แรงดันหรือแรงเคลื่อนไฟฟ้า ต่ำกว่า 12.00 V.บ่งบอกว่า    พลังงานในแบตเตอรี่ต่ำกว่าเกณฑ์ ซึ่งเป็นผลมาจากหลายสาเหตุ      เช่น จอดรถไว้นานมาก, ไฟรั่ว,  แผ่นธาตุและน้ำยาอิเล็คโทรไลท์เสื่อมสภาพ   ลักษณะเช่นนี้  ไม่สามารถใช้งานต่อไปได้ สรุปว่า  “เปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่”  แรงดันหรือแรงเคลื่อนไฟฟ้าอยู่ระหว่าง 12.00-12.50 V.   บ่งบอกว่า แบตเตอรี่ไฟอ่อน ซึ่งเป็นผลมาจากหลายสาเหตุ  เช่น รถใช้งานน้อย, มีการติดตั้งอุปกรณ์ทางไฟฟ้ามาก, ไฟรั่ว รวมถึงระบบไฟชาร์จและตัวไดชาร์จ  ทำงานผิดปกติ ลักษณะเช่นนี้ให้เฝ้าระวัง สรุปว่า  “ใช้งานได้อีกระยะหนึ่ง”  แรงดันหรือแรงเคลื่อนไฟฟ้ามากกว่า 12.50 V.  บ่งบอกว่า แบตเตอรี่มีแรงดันไฟฟ้าที่เป็นปกติ           หมายความว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติ สรุปว่า “แบตเตอรี่ดี”

อันดับต่อไป ในขณะทำการสตาร์ท  STARTER TEST 

        แรงดันหรือแรงเคลื่อนของแบตเตอรี่ จะต้องอยู่ในระดับที่สูงกว่า 10.30 V. เป็นการบ่งบอกถึงความสามารถของแบตเตอรี่  ในการรักษาแรงดันไฟฟ้า  เพื่อให้มอเตอร์สตาร์ททำงาน ขณะทำการติดเครื่องยนต์หากทำการสตาร์ท  แล้วพบว่า แรงดันน้อยกว่า  9.6 V. แสดงว่าควรเปลี่ยนใหม่ แต่ถ้าแรงดันอยู่ระหว่าง  9.6-10.30 V. แนะนำว่าให้เฝ้าระวัง แต่ถ้าแรงดันสูงกว่า  10.30 V.  ถือว่ายังใช้งานได้ดีครับ 

ต่อไป ระดับของการชาร์จไฟ  CHARGING TEST

        เป็นการบ่งบอกถึง ประสิทธิภาพของการชาร์จไฟ การทดสอบและการตรวจสอบ
จะต้องอยู่ในสภาพของการใช้งานทั่วไป  คือ ทำการเปิดแอร์ (ระบบปรับอากาศ),  เปิดไฟหน้า (ไฟต่ำ)
ต้องอยู่ในรอบเดินเบาของเครื่องยนต์  โดยทำการวัดแรงดัน จะต้องอยู่ระหว่าง 13.30-14.50 V. ถือว่าใช้งานได้ดี ระบบทำงานเป็นปกติ  แต่ถ้าแรงดันอยู่ต่ำกว่า12.50 V. ไดชาร์จทำงานบกพร่อง ควรรีบทำการแก้ไขโดยด่วน  แต่ถ้าวัดแรงดันอยู่ระหว่าง 12.50-13.30 V. ลักษณะนี้ต้องเฝ้าระวัง สรุปว่า  แรงดันมากกว่า 13.30 V.  ถึง 14.50 V. ถือว่าใช้งานได้ดี  หากทางเจ้าหน้าที่ มีการนำเสนอเปลี่ยนแบตเตอรี่โดยมีเอกสารอ้างอิง
ท่านผู้อ่าน สามารถทำความเข้าใจได้ไม่ยากครับ  ตามที่กล่าวมาตั้งแต่ต้นครับผม

ท้ายนี้ ขอให้ท่านผู้อ่านทุกท่าน ใช้รถยนต์อย่างมีความสุข ทุกท่านครับ.
            ...แบตเตอรี่ สำคัญมาก หากได้ทราบ…

     
                                                                                               ฝ่ายฝึกอบรม
                                                                        บริษัท พิธานพาณิชย์ จำกัด  (กรุงเทพฯ)

 

 

 

                                                                                                                                                                                                                                                  

                                                                                                               ขอบคุณภาพ ... apkpure.co

หมวด ข้อมูล-ความรู้ทางเทคนิค | จำนวนคนอ่าน 2603 ครั้ง | เมื่อ : 26 ก.ค. 2560 | ส่งบทความนี้ให้เพื่อน

NEW HILUX REVO C-Cab 2x4 ราคาเริ่มต้น 775,000 บาท

พิเศษ : ขยายการรับประกัน 5 ปี หรือ 150,000 km. และฟรีค่าแรง 5 ปีหรือ 100,000 km.

ขอใบเสนอราคา