phithan-toyota.com | พิธานพาณิชย์ จำกัด ศูนย์บริการและจำหน่ายรถยนต์โตโยต้าทุกรุ่น

บทความ

รถยนต์จอดเฉยๆไม่ค่อยได้ใช้งานหรือใช้งานน้อย ( น้ำไม่ท่วม )

หมวด การดูแลรักษารถ | จำนวนคนอ่าน 22897 ครั้ง | เมื่อ : 20 ธ.ค. 2554 | ส่งบทความนี้ให้เพื่อน

       รถยนต์ถือเป็นปัจจัยที่ 5 ที่ใช้สำหรับในการเดินทางหรือที่เราๆเข้าใจกันว่า เป็น “ พาหนะ ”

การที่ใช้รถยนต์สำหรับการเดินทางหากเป็นเช่นนั้นอย่างเดียวไม่  จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการบำรุงรักษาควบคู่กันไปอีกด้วย ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยจะได้ถูกใช้งานก็ตาม การที่ได้ซื้อรถยนต์นั้นก็เพื่อการใช้งานคงเป็นไปไม่ได้ที่จะจอดไว้เฉยๆหรือมีการปล่อยปละละเลยกันนะครับ  ทางผู้ผลิตรถยนต์ได้วิเคราะห์มาเป็นอย่างดีแล้วว่า การที่มีการบำรุงรักษาตรงตามระยะที่กำหนด จะช่วยให้รถยนต์มีความสมบูรณ์พร้อมทุกเวลาของการใช้งาน  จึงถือเป็นเรื่องที่จำเป็นครับ จึงได้กำหนดระยะเวลา(เดือน) กับระยะทาง(กิโลเมตร) ไม่ว่าจะเป็นระยะเวลาใดถึงก่อนก็ตาม  จะต้องมีการเปลี่ยน, การตรวจเช็ก, การปรับแต่ง และอื่นๆ  ดังนั้นท่านเจ้าของรถไม่ควรละเลย  ถึงแม้ว่าจะใช้รถยนต์น้อยก็ตาม
     การใช้รถยนต์ได้อย่างเต็มที่และถูกต้องจะเกิดความคุ้มค่าอย่างยิ่ง แต่ก็มีอยู่ไม่น้อยเหมือนกันตรงที่ว่า  มีรถยนต์ใช้ในยามจำเป็นเท่านั้นหรือเอาไว้สำหรับเดินทางยามพักผ่อนท่องเที่ยว  แต่ถึงกระนั้นในเมื่อไม่ใช้ก็ได้มีการติดเครื่องยนต์เป็นประจำ  การกระทำดังกล่าวถือว่าดีในระดับหนึ่งเท่านั้นแต่ไม่ได้ครอบคลุมถึงตัวรถยนต์ทั้งหมดครับ  เพราะจะได้ในส่วนหลักของเครื่องยนต์เท่านั้น  ส่วนประกอบอื่นๆหรือกลไกอื่นๆไม่ได้มีการทำงานแต่อย่างใดครับ  ดังนั้น  ทางที่ดีควรให้ชิ้นส่วนอื่นมีการเคลื่อนไหวบ้างก็จะดียิ่งขึ้นและนั่นเป็นสิ่งที่ท่านเจ้าของรถยนต์ไม่ควรมองข้ามกันนะครับ
   สมมุติว่ามีรถยนต์แล้วไม่ค่อยได้ขยับเขยื้อนไปไหนสิ่งที่ถูกผลกระทบเป็นอันดับต้นๆคือ ยางล้อรถยนต์  เพราะเป็นส่วนที่น้ำหนักของรถยนต์ทั้งหมดกดทับเอาไว้  ทำให้โครงสร้างของยาง  อาจจะมีการเสียรูปได้  ถัดมาก็พวกเกียร์และเฟืองท้าย, ลูกปืนต่างๆ,กลไกของระบบเบรก เป็นต้น 

ขอยกตัวอย่างในระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ  ซึ่งในคู่มือมีการระบุไว้ว่าจะต้องมีการใช้งานสำหรับขับเคลื่อนสี่ล้ออย่างน้อยเดือนละประมาณ 18 กิโลเมตร  เพื่อให้กลไกมีการทำงานบ้าง  ความสมบูรณ์จะได้พร้อมทุกสถานการณ์  บางท่านอาจมองว่าโอกาสใช้งานแทบไม่มีเลย  ตรงจุดนี้ถึงแม้มิได้ถูกใช้งานแต่เมื่อครบระยะเวลาตามกำหนด  ก็ต้องมีการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์และเฟืองท้ายอยู่ดีนั่นเองครับ
     มีคำพูดกันอยู่บ่อยๆว่า “ใช้รถยนต์น้อยไปก็ไม่ดี  ใช้รถยนต์มากไปก็โทรมเร็ว”  อันนี้ต้องขอบอกว่าเป็นกฎแห่งธรรมชาติอยู่แล้วครับ  สิ่งที่ท่านเจ้าของรถควรเอาใจใส่คือ ให้รถยนต์ของท่านมีการบำรุงรักษาตามที่กำหนด (ถ้าหากใช้คำว่านำรถเข้าซ่อมดูจะมีความรุนแรงเกินไปหน่อยครับ)  ซึ่งรายละเอียดต่างๆศึกษาได้จากคู่มือการใช้รถหรือสามารถสอบถามไปยังศูนย์บริการรถยนต์นั้นๆก็ย่อมได้ครับ
     ขอกลับไปยังผู้ที่ใช้รถยนต์น้อยหรือแทบจะจอดไว้เฉยๆ ต้องขอบอกว่า  ควรจะมีการเคลื่อนไหวรถยนต์บ้าง  หากพบสิ่งที่ผิดปกติจะได้ทราบไปในคราวเดียวกันนั่นเองครับ  นอกจากนั้นถ้าเป็นไปได้ให้ตรวจสอบชิ้นส่วนและอุปกรณ์ต่างๆของรถยนต์ด้วย  เอาเท่าที่สามารถที่กระทำได้ก็แล้วกัน  เช่น  มีสิ่งใดที่ผิดปกติที่อยู่ใต้ท้องรถยนต์บ้าง, มีสิ่งใดที่ผิดปกติบริเวณในห้องเครื่องยนต์บ้าง, รวมถึงระดับน้ำและน้ำมันต่างๆ  ก็จะดียิ่งขึ้นครับ
     เคยมีข่าวที่เกี่ยวกับรถยนต์มาเล่าสู่กันฟังดังนี้ครับ  มีรถยนต์คันหนึ่งมีการจอดรถยนต์ไว้ไม่นานแล้วจู่ๆจะมีการใช้รถกลับพบว่า  สตาร์ทไม่ติดทั้งๆที่  กำลังไฟของแบตเตอรี่ดี, มอเตอร์สตาร์ทก็ทำงานสมบูรณ์ดี, น้ำมันเชื้อเพลิงก็มี  จึงได้ทำการตรวจเช็กลงลึกลงไปพบว่า  เจ้ามดตัวน้อยๆมีการเข้าไปอยู่อาศัยกันเป็นจำนวนมากในตัวรีเลย์  ทำให้เกิดการลัดวงจรการต่อเนื่องของระบบจึงขาดหายไป  มีอีกอันหนึ่งแต่อันนี้อาจจะหวาดเสียวหน่อยตรงที่ว่า  มีสัตว์เลื้อยคลานประเภทงูมาหลับนอนในห้องเครื่องยนต์  กว่าจะทราบก็ต่อเมื่อมีการติดเครื่องยนต์แล้ว คือได้สังเกตเสียงแปลกๆเมื่อเปิดฝากระโปรงห้องเครื่องยนต์แทบผงะ  ตามที่บอกว่าถ้าเป็นไปได้ให้ตรวจสอบบริเวณห้องเครื่องยนต์ก็ด้วยเหตุผลนี่แหละครับ  อย่ามองข้ามกันนะครับ
   สิ่งที่ท่านเจ้าของรถยนต์เอาใจใส่ดูแลรถยนต์อย่างสม่ำเสมอ  ก็เพื่อรถยนต์ของท่านพร้อมใช้ทุกเวลา  ดังนั้น  รถยนต์ของท่านผู้อ่านไม่ว่าจะถูกใช้งานน้อยหรือมากก็ควรมีการบำรุงรักษาอย่างเคร่งครัดแล้วจะพบกับความสมบูรณ์ในรถยนต์ของท่านครับผม

บำรุงรักษารถยนต์ดี  ไม่มีทางขัดข้องครับ
แผนกเทคนิคและฝึกอบรม
บริษัท  พิธานพาณิชย์  จำกัด ( กรุงเทพฯ )

 

หมวด การดูแลรักษารถ | จำนวนคนอ่าน 22897 ครั้ง | เมื่อ : 20 ธ.ค. 2554 | ส่งบทความนี้ให้เพื่อน

เลือกซื้อสินค้าออนไลน์ Trumq