ค้นหาบทความ

หมวดหมู่

 โหราศาสตร์(9)
 ท่องเที่ยว(9)
 Lifestyle(9)
 รถยนต์(15)
 กีฬา(11)
 สุขภาพ(12)
 ลักษณะปัญหาที่เกิดขึ้นกับรถยนต์(24)
 บทความทั่วไป(75)
 เทคนิคเกี่ยวกับรถ(44)
 ถาม-ตอบที่น่าสนใจ(162)
 ข้อมูล-ความรู้ทางเทคนิค(97)
 อะไหล่(21)
 การดูแลรักษารถ(61)
 การใช้รถ(85)
 Camry Hybrid(13)
 อื่นๆ(35)

บทความล่าสุด

น้ำในหม้อน้ำลดหาย เกิดจากสาเหตุใด ?
ดอกยางสึกเพียงด้านเดียวเป็นเพราะอะไร ?
อย่า !! ละเลยภายในห้องเครื่องยนต์
ไฟเบรกไม่ติดมีความไม่ปลอดภัยอย่างไร ?
เข้าศูนย์ตอนเช้าดียังไง ?
กรณีรถเสีย จะติดต่อหน่วยงานไหนดี ?
ขับรถตกหลุมบ่อย ๆ จะส่งผลอย่างไรบ้าง ?
ถ้าได้กลิ่นเหม็นไหม้ภายในรถ ควรทำอย่างไร ?
คินโตะ (บริการการเช่ารถจากโตโยต้าราคาเดียว) เหมาะสมกับลูกค้ากลุ่มใดบ้าง?
เหตุใด !! รถยนต์คัมรี่ใหม่ (2564) รุ่น Hybrid ที่ใช้เครื่องยนต์เดิมจึงมีตัวเลขประหยัดน้ำมันตาม Eco Sticker ลดลงจากเดิม ?
เหตุใดจึงต้องมีการยกเลิก รถยนต์ Camry รุ่น 2.0 ลิตร ?
จากรูปลักษณ์ภายนอก เราสามารถแยกรุ่น Hybrid กับเบนซิน ได้อย่างไร ?
คำว่า HEV ย่อมาจากคำว่าอะไร?
เหตุใดการลากรถจึงต้องทำการตรวจสอบระบบขับเคลื่อน ?
สตาร์ทรถไม่ปิดแอร์ส่งผลอย่างไร?
จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง!! หากการเร่งเครื่องหรือเบิ้ลเครื่อง ขณะที่เครื่องยนต์เย็นอยู่ ?
ขณะจอดรถติดไฟแดงควรเลื่อนคันเกียร์อยู่ตำแหน่งใด ?
หลีกเลี่ยงการคิกดาวน์ (Kickdown) เนื่องจากสาเหตุใด ?
สีฟุตบาทขาวเหลืองหมายถึงอะไร ?
เราจะเห็นสีฟุตบาทขาวแดงได้ที่ไหนบ้าง ?

 

ภัยจากโคเลสเตอรอล( Cholesterol )

เมื่อ : 25 มกราคม 2550เวลา08:54:13 บทความทั้งหมด   แสดงความคิดเห็น(0)

ปัจจุบันนี้คนเราส่วนมากมักจะบริโภคอาหารแต่ไม่คำนึงถึงสารอาหารที่ได้รับ จะมีเพียงแต่ปริมาณที่รับประทานเข้าไปซึ่งอาจจะมีปริมาณมากบ้างน้อยบ้าง โดยหากมีโคเลสเตอรอลมากก็อาจจะทำให้เกิดปัจจัยของโรคหัวใจขาดเลือด,อัมพฤกษ์,อัมพาต ได้

ปัจจัยเสี่ยงของโรคหัวใจขาดเลือด,อัมพฤกษ์,อัมพาต ได้แก่
1.ระดับโคเลสเตอรอลในเลือดสูง
2.ความดันโลหิตสูง
3.การสูบบุหรี่
4.โรคเบาหวาน
5.น้ำหนักมากเกินไปหรื่อโรคอ้วน
6.โรคเครียดและวิตกกังวล
7.การไม่ออกกำลังกาย
8.การขาดสารต้านอนุมูลอิสระ
9.อายุมาก(มากกว่า 35 ปีในผู้ชายและ 45 ปีในผู้หญิง)
10.ประวัติโรคหัวใจ,อัมพฤกษ์,อัมพาต ในครอบครัว

ปัจจัยเสี่ยงหลักที่สำคัญที่สุดคือ ระดับโคเลสเตอรอลหลังมื้ออาหารการกินอาหารในแต่ละมื้อจะมีไขมันปนอยู่ด้วยเสมอ ในการย่อยไขมันถุงน้ำดีจะขับน้ำดีลงมาในลำไส้ เพื่อช่วยย่อยไขมันน้ำดีจะถูกสร้างที่ตับแล้วเก็บสะสมไว้ที่ถุงน้ำดี ในน้ำดีจะมีโคเลสเตอรอลเป็นส่วนประกอบหลัก ในคนปกติจะมีโคเลสเตอรอลวันละ 700 มก. ถูกขับออกมาพร้อมน้ำดีลงมายังลำไส้และจะถูกดูดกลับเข้าสู่กระแสเลือด    ดังนั้น หลังอาหารทุกมื้อจะมีโคเลสเตอรอลสูงขึ้นในเลือด  ซึ่งเป็นผลเสียต่อหลอดเลือด ถ้าเราสามารถควบคุมระดับโคเลสเตอรอลหลังมื้ออาหารให้อยู่ในระดับต่ำ ก็จะสามารถป้องกันการตีบตันของหลอดเลือดแดงได้ คเลสเตอรอลและอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง เช่น กะทิ,ไขมันจากสัตว์,หนังสัตว์,เนื้อสัตว์ที่มีไขมันมาก ,ไข่แดง, เครื่องในสัตว์ ฯลฯ เราจึงควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีโคเลสเตอรอลและอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง หรือรับประทานให้พอเหมาะกับความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน

การรับประทานอาหารที่ถูกต้องตามหลักโภชนาการ
สมาคมแพทย์โรคหัวใจของอเมริกาได้สรุปเป็นคำแนะนำออกมาสำหรับประชาชนวัยผู้ใหญ่ๆทั่วไป ให้เลือกรับประทานอาหาร ให้ได้สัดส่วนตามประมาณในตารางด้านล่างนี้ ก็จะทำให้ได้สารอาหารครบถ้วนทุกหมู่ และเหมาะสมกับร่างกายซึ่งเป็นผลดีต่อสุขภาพ

ตารางโภชนาการในการรับประทานอาหารต่อ 1 วัน

ประเภทอาหาร

ปริมาณที่พอเหมาะ

เนื้อสัตว์ทุกชนิดรวมกันที่ปรุงสุกแล้ว

ไม่เกิน 170 กรัม/วัน( 100 กรัม = 1 ขีด)

ไข่ไก่ หรือไข่ เป็ด

ไข่แดงไม่ควรรับประทานมากกว่า 4 ฟอง / สัปดาห์
ไข่ขาวรับประทานได้ไม่จำกัด ถ้าการทำงานของตับ และไตปกติ

ผักและผลไม้ที่ไม่หวานจัด

ประมาณ 3 ถ้วยตวง / วัน

นม และผลิตภัณฑ์จากนมต้องเป็นชนิดไขมันต่ำ

2-4 กล่อง (กล่องละ 250 มล.)/วัน

อาหารประเภทแป้ง เช่น ข้าว ก๋วยเตี๋ยว ขนมปัง เผือก มัน

ถ้าเป็นข้าว ก๋วยเตี๋ยว เผือก มัน รวมแล้วประมาณ 3 ถ้วยตวง/วัน ถ้าเป็นขนมปังปอนด์ ประมาร 7 แผ่น / วัน

ไขมัน ถั่วเมล็ดแห้ง ขนมหวาน

เลือกที่มีปริมาณกรดไขมันอิ่มตัวและโคเลสเตอรอลน้อยที่สุด

การได้รับสารสเตอรอลจากพืช *1 และสารคาร์โรทีนอยด์จากธรรมชาติ *2 หลังทานอาหารที่มีไขมันจะช่วยให้สามารถควบคุม ระดับของโคเลสเตอรอลในเลือดให้อยู่ในระดับต่ำอยู่เสมอ ซึ่งจะเป็นผลดีอย่างยิ่งต่อการป้องกันการตีบตันของหลอดเลือดแดง และสามารถลดความเสี่ยงของโรคหัวใจขาดเลือด,อัมพฤกษ์,อัมพาตได้และถ้าหากเราต้องการรับประทานสารอาหาร 2 ชนิดนี้ โดยไม่ต้องรับประทานพืชผักก็สามารถหารับประทานเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีขายตามท้องตลาดได้ *1 สารสเตอรอลจากพืชซึ่งได้จากน้ำมันถั่วเหลือง,น้ำมันทานตะวัน,น้ำมันข้าวโพด ฯลฯ สามารถยับยั้ง การดูดซึมของโคเลสเตอรอล ในลำไส้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และจะจับที่ผนังลำไส้คอยยับยั้งการดูดซึมของโคเลสเตอรอลได้นานหลายชั่วโมง *2 สารคาร์โรทีนอยด์จากธรรมชาติซึ่งได้จาก แครอท,พริกหยวก,บล็อกเคอรี่และพืชที่มีสีสดอื่นๆ จะเป็นสารต้านอนุมูลอิสระจาก ิธรรมชาติ ช่วยยับยั้งความเสื่อมของผนังหลอดเลือดแดงช่วยให้มีความเรียบและลื่น ทำให้โคเลสเตอรอลมาเกาะและพอกตัวได้ยาก ดังนั้นเราจึงต้องหันมาใส่ใจในการรับประทานอาหารที่มีโคเลสเตอรอลสูง และหันมาออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อจะได้มี ร่างกายที่แข็งแรงไว้เผชิญกับความรุนแรงของโรคต่างๆได้

ขึ้นด้านบน   ส่งบทความนี้ให้เพื่อน   สั่งพิมพ์หน้านี้   แสดงความคิดเห็น(0)

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

 ภัยจากโคเลสเตอรอล( Cholesterol )
 ผลตอบแทนกับจุดมุ่งหมายของงาน
 ดี-ชั่ว ถูก-ผิด ตัดสินอย่างไร
 โทรศัพท์มือถือทุกค่ายสามารถไปขอแก้อีมี่ได้
 ข้อแนะนำเกี่ยวกับการทำงาน
แสดงความคิดเห็นในเรื่อง "ภัยจากโคเลสเตอรอล( Cholesterol )"