phithan-toyota.com | พิธานพาณิชย์ จำกัด ศูนย์บริการและจำหน่ายรถยนต์โตโยต้าทุกรุ่น

บทความ

ปรับกระจกมองข้าง กับ กระจกมองหลัง

หมวด การใช้รถ | จำนวนคนอ่าน 45503 ครั้ง | เมื่อ : 27 มิ.ย. 2550 | ส่งบทความนี้ให้เพื่อน

บ่อยครั้งในการขับขี่รถยนต์จะต้องมีการเปลี่ยนช่อง (เลน) การเดินรถ  เกิดอาการตกใจ เนื่องจากไม่เห็นรถที่ขับตามมา หรือ รถที่อยู่ทางด้านข้าง สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการมองไม่เห็น นั่นก็คือ “มุมอับ” สภาวะมุมอับที่เกิดขึ้น ย่อมส่งผลถึงการเกิดอุบัติเหตุ ขึ้นชื่อว่าอุบัติเหตุ นำพาซึ่งความสูญเสีย ไม่ว่าในเรื่องของเวลา, อารมณ์, ทรัพย์สิน หรือ บางครั้งรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตการป้องกันก็ยังพอมีวิธีอยู่บ้าง แต่อาจจะฝืนความรู้สึกของผู้ขับขี่ เพราะความเคยชินของผู้ขับขี่มีมาก่อนหน้านี้แล้ว และที่จะกล่าวถึงในบทความฉบับนี้นั้น มีด้วยกัน 2 วิธี

วิธีที่ 1     การปรับกระจกมองข้าง

ในการปรับกระจกมองข้าง ให้กระทำทั้ง 2 ข้าง (ซ้ายและขวา) วิธีปรับให้ปรับกางออกไปให้ตั้งฉากกับตัวรถ การปรับเช่นนี้จะได้มุมมองที่กว้างขึ้น ขนานไปกับตัวรถ ซึ่งจะทำให้เห็นรถที่อยู่ทางด้านข้างและรถที่อยู่ทางด้านหลังมากขึ้น แต่ท่านจะเห็นมุมด้านข้างของรถที่ขับขี่อยู่น้อยลง อาจจะไม่ชินในระยะแรกๆ แต่พอนานไปท่านจะชินมากขึ้น และก็จะปลอดภัยมากขึ้นตามลำดับรถยนต์บางรุ่นของโตโยต้า ได้มีการติดตั้งอุปกรณ์ ลดมุมอับ มาจากโรงงานให้อยู่แล้วโดยเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ซึ่งมาพร้อมกับกระจกมองข้าง ตรงนี้อาจยกเว้น

วิธีที่ 2     การเลือกใช้กระจกมองหลัง

ก่อนอื่น ขอกล่าวย้อนหลังไปสัก 20 ปี รถยนต์สมัยก่อนผู้ผลิตรถยนต์ หรือ รถยนต์ที่ออกมาจากโรงงานประกอบ ไม่ว่าจะเป็นรถญี่ปุ่น หรือ รถยนต์ทางยุโรปก็ตาม จะไม่มีกระจกมองข้างทางด้านซ้ายมาให้ ต้องมีการซื้อใส่เองในรูปของอะไหล่ (แปลกดีนะมาจากโรงงานไม่มี แต่มีขายให้ เป็นงง) ซึ่งการที่ไม่มีมานั้น การมองทางด้านซ้ายจะต้องอาศัยกระจกมองหลังนั่นเอง ผู้ขับขี่จะต้องมองที่กระจกมองหลัง เพื่อสังเกตรถที่ขับทางด้านซ้ายมือ หรือ รถที่ขับตามหลัง ดังนั้นกระจกมองหลังมีความสำคัญมากเช่นกัน  ในเรื่องของความปลอดภัยในการขับขี่เปลี่ยนช่องทาง หรือ จะขับขี่ไปทางด้านซ้าย ซึ่งที่กล่าวมานั้น ทางผู้เขียนต้องการที่จะสื่อให้เห็นว่า “การเปลี่ยนหรือเสริมกระจกมองหลังให้ใหญ่ขึ้นนั้น ก็มีประโยชน์ต่อผู้ขับขี่เช่นเดียวกัน” ถึงแม้ว่าจะมีการเกะกะในเรื่องที่จะใช้แผงบังแดดได้โดยง่าย หมายความว่า เวลาที่ใช้แผงบังแดดในการบังแดดทางด้านกระจกหน้าหรือทางด้านข้างบริเวณประตู จะไม่คล่องตัวเหมือนตอนที่ยังไม่มีกระจกมองหลังที่ใหญ่ขึ้นก็ตาม แต่ก็ไม่บ่อยครั้งเท่ากับการใช้งานของกระจกมองหลังสิ่งที่ได้ประโยชน์จากกระจกมองหลังที่ใหญ่ขึ้น คือ จะได้มุมมองที่กว้างขึ้น ทั้งภายในห้องโดยสารและภายนอกห้องโดยสาร ซึ่งจะทำให้มองเห็นได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น ความปลอดภัยก็อาจจะมีมากขึ้น อันนี้แล้วแต่ความถนัด

 

อาจจะมีคำถามว่า ทำไม? ไม่ติดตั้งมาจากโรงงานประกอบเลย (กระจกมองหลังที่ใหญ่)

ทางวิศวกรได้คำนวณแล้วว่าเพียงพอต่อการใช้งาน มุมที่มองเห็นชัดเจนดีอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นและการทำให้มีขนาดใหญ่ย่อมมีน้ำหนักมากขึ้น เวลาจอดรถตากแดด กระจกมองหลังก็ห้อยลงมา ยามผ่านทางขรุขระก็จะสั่นสะเทือนง่าย ทำให้ไม่นิ่งเวลามองหลัง และนี่ก็เป็นประเด็นที่ทำให้มีการออกแบบที่เหมาะสม เพียงพอต่อการใช้งานที่กล่าวมาทั้งหมด อาจจะช่วยให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ถึงแม้ว่า วิธีที่ 1 แรกๆอาจไม่ชิน พอนานไปอาจจะดีขึ้น ส่วนวิธีที่ 2 คงต้องหาซื้ออุปกรณ์ดังกล่าว จากร้านที่ขายอุปกรณ์รถยนต์ หรือที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป ส่วนวิธีการดังกล่าวทางผู้อ่านจะนำไปใช้นั้น ก็แล้วแต่ความถนัดของแต่ละบุคคล ไม่เจาะจงหรือบังคับกันได้ครับ

แก้ไข  ในจุดบอด
แผนกเทคนิคและฝึกอบรม
บริษัท พิธานพาณิชย์ จำกัด (กรุงเทพฯ)

       

 

ขอบคุณภาพ

Kapook Car

หมวด การใช้รถ | จำนวนคนอ่าน 45503 ครั้ง | เมื่อ : 27 มิ.ย. 2550 | ส่งบทความนี้ให้เพื่อน

COMMUTER ราคาเริ่มต้น 1,339,000 บาท