รถกระบะหรือที่เรียกกันว่ารถปิคอัพ ปัจจุบันได้ถูกผลิตออกมาด้วยกันหลากหลายรูปแบบ ในแต่ละแบบก็จะเรียกแตกต่างกันไป ตัวอย่างในรถยนต์โตโยต้า กระบะตอนเดียวเรียกว่า B-CAB, กระบะมีแค๊ปเรียกว่า C-CAB หรือ แค๊ปเปิดได้ ( ตู้กับข้าว ) เรียกว่า SMART-CAB และสี่ประตูเรียกว่า D-CAB เป็นต้น
ขึ้นชื่อว่าเป็นรถกระบะย่อมมีกระบะเพื่อบรรทุกของ ในสมัยนี้นิยมที่จะใส่พื้นปูกระบะกันมากขึ้น ซึ่งมีอยู่น้อยมากที่จะไม่ใส่ การใส่พื้นปูกระบะถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะเมื่อติดตั้งเข้ากับตัวรถแล้ว จะสามารถป้องกันในส่วนของกระบะได้เป็นอย่างดีในหลายๆด้าน จะมีในส่วนที่ไม่ดีเพียงเล็กน้อยคือ จะมีน้ำหนักเพิ่มมากขึ้นให้กับตัวรถ และในบางครั้งอาจทำให้มีการเปิดท้ายกระบะที่ไม่เหมือนเดิมไม่เหมือนกับที่ยังไม่มีการติดตั้ง ( มาจากโรงงานไม่มี ) คือเปิดยาก
ในส่วนของพื้นปูกระบะจะมีด้วยกันหลากหลายยี่ห้อ แต่ละยี่ห้อก็จะแตกต่างกันไป ตามหัวข้อเรื่องที่บอกว่าฝาท้ายรถกระบะนั้น จะเน้นในเรื่องของการที่เปิดยากและใช้แรงในการเปิดมาก สาระสำคัญอาจจะไม่ได้ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ แต่อาจจะขึ้นอยู่กับการติดตั้งก็เป็นได้ ที่ทำให้ประสบปัญหาในการเปิดฝาท้ายที่ลำบาก
อนึ่ง การเปิดฝาท้ายที่ยาก อาจนำพาให้มือเปิดเกิดความเสียหายได้ โดยจะมีการแตกหักภายในฝาท้าย ก็เท่ากับว่าจะต้องเสียเวลาในการซ่อมแซมและมีค่าใช้จ่ายนั่นเอง
และในครั้งนี้กล่าวเฉพาะมือเปิดฝาท้ายที่อยู่ตรงกลางเท่านั้น ดังนั้น การปฏิบัติดังกล่าวจะช่วยให้ชิ้นส่วนมีความคงทน ใช้งานได้ยาวนาน หากรถยนต์ไม่มีความเสียหายใดๆ ก็จะใช้รถยนต์ได้อย่างคุ้มค่าสูงสุด นั่นเองครับ
นึกถึงไว้ ใช้งานนานครับ
แผนกเทคนิคและฝึกอบรม
บริษัท พิธานพาณิชย์ จำกัด (กรุงเทพฯ)
1.สำหรับลูกค้าเก่าที่มีสำเนารถโตโยต้า เลือกรับส่วนลด 15,000 หรือส่วนลดดอกเบี้ย 60 สตางค์
2.สำหรับลูกค้าที่มีสำเนารถยี่ห้ออื่น เลือกรับส่วนลด 10,000 หรือ ส่วนลดดอกเบี้ย 40 สตางค์
3. สำหรับลูกค้าใหม่ ที่มีญาติ เพื่อน หรือคนรู้จักมีสำเนารถโตโยต้า
- ผู้ถูกแนะนำ : เลือกรับส่วนลด 5,000 หรือ ส่วนลดดอกเบี้ย 20 สตางค์
- ผู้แนะนำ : รับแต้มสะสม T-MEX 2,000 แต้ม (1 แต้ม = 1 บาท)