คำว่า “ยางปัดน้ำฝน” ทุกคนที่ขับรถย่อมรู้จักกันดี หน้าที่ของมันก็คือ ใช้ปัดน้ำที่มีอยู่ที่กระจกบังลมหน้า, หลัง หรือในบางครั้งก็อาจจะเป็นสิ่งอื่น เช่น โคลน, ใบไม้, แมลงหรืออื่นๆ เพราะฉะนั้นการใช้ยางปัดน้ำฝนไม่จำเป็นที่จะต้องปัดน้ำเพียงอย่างเดียวมีประโยชน์ในด้านอื่นด้วย
การที่จะให้ยางปัดน้ำฝน พร้อมที่จะใช้งานได้ตลอดเวลา ก็ควรตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอด้วยตนเอง สัปดาห์ละ 1 ครั้ง โดยการทำความสะอาดที่ตัวยางปัดน้ำฝน, คูร่องรอยการฉีกขาดให้ทั่วตัวยางปัดน้ำฝน พร้อมกันทุกตัวที่มีในรถคันนั้นๆ
ผู้ขับขี่ส่วนมาก เวลาปัดน้ำฝน แล้วปัดไม่สะอาดก็จะทำการเปลี่ยนในช่วงๆนั้นไป (ก็เป็นเรื่องจริง) แต่ถึงอย่างไรขอแนะนำให้ทำความสะอาดก่อนนะครับ ทั้งยางปัดน้ำฝนและกระจก ก่อนที่จะเปลี่ยน เพื่อความประหยัด อีกอย่างก็คือ ราคาของปัดน้ำฝนที่เป็นของแท้ (มีคุณภาพดีมากๆ ขอยืนยันครับ) มีราคาพอประมาณ ถ้าหมั่นดูแลรักษาก็จะช่วยยืดอายุการใช้งานได้ครับ
การเปลี่ยนยางปัดน้ำฝนโดยเฉลี่ยประมาณปีละ 1 ครั้ง ทำไม! ถึงเป็นเช่นนั้น เพราะยางปัดน้ำฝนจะถูกใช้มากก็ประมาณราวฤดูฝนในแต่ละปี ตัวยางปัดน้ำฝนก็อยู่แนบกระจกตลอดเวลา (ยกเว้นมีอุปกรณ์เสริม) จะทำให้เสียรูป ไหนจะโดนความร้อนจากแสงแดดอีก รวมถึงการที่ถูกใช้งานด้วย ก็เป็นสาเหตุให้ยางปัดน้ำฝนปัดไม่สะอาด ทำให้ทัศนะวิสัยในการขับขี่ไม่ดี สามารถ
ที่จะทำให้เกิดอันตรายได้ตลอดเวลา ดังนั้น ควรตัดไฟเสียแต่ต้นลม (นำสุภาษิตมาใช้สักหน่อย) หมายความว่า “ทำก่อนที่จะเกิด” ครับ
การเลือกซื้อยางปัดน้ำฝนก็สำคัญ ควรใช้เฉพาะของแท้เท่านั้น นอกจากจะให้ประสิทธิภาพในการใช้งานที่ดีแล้ว ยังช่วยมิให้ส่วนอื่นๆขัดข้องอีกด้วย เช่น
• ไม่ทำให้เกิดเสียงดังขณะปัดน้ำฝนทำงาน
• ปัดได้คล่องตัวทุกจังหวะการทำงาน
• ปัดได้สะอาดทุกจังหวะการทำงาน
• กระจกจะไม่เกิดเป็นรอยขีดข่วน
เห็นมั้ยครับว่า “ยางปัดน้ำฝน” สำคัญไม่แพ้ส่วนอื่นๆของรถยนต์เลย แม้แต่น้อยและการที่แนะนำ ก็เป็นวิธีง่ายๆ ที่สามารถกระทำด้วยตนเองได้ เพื่อความปลอดภัยในยามขับขี่ ดังนั้น อย่ามองข้าม ยางปัดน้ำฝน กันนะครับ