รู้ไว้เข้าใจยาง

หมวด การใช้รถ | จำนวนคนอ่าน 26749 ครั้ง | เมื่อ : 05 เม.ย. 2550 | ส่งบทความนี้ให้เพื่อน

หน้าที่ของยางรถยนต์
  1.   รองรับน้ำหนักทั้งหมดของรถยนต์
  2.   ส่งถ่ายกำลังในการขับเคลื่อนจากตัวรถยนต์สู่ถนน, การเลี้ยว และแรงเบรก
  3.   เพิ่มความนุ่มนวล แก่ห้องโดยสาร จากการสั่นสะเทือนของพื้นถนน

การดูแลและการตรวจสอบยาง
    การตรวจสอบควรตรวจสอบให้ครบให้ทุกเส้น รวมถึงยางอะไหล่ด้วย หากยางเส้นใดเส้นหนึ่งมีความดันลมยางต่ำกว่ามาตรฐานมากกว่าหรือเท่ากับ 2 ปอนด์ต่อตารางนิ้วขึ้นไป จะต้องตรวจสอบหาร่องรอยการถูกบาด, ตำทะลุ, การรั่วซึมของวาล์ว (ที่จุ๊บเติมลม) หรือ ความเสียหายของกระทะล้อซึ่งอาจส่งผลถึงความดันลมยาง

     ตรวจสอบความดันลมยางของรถรวมถึงยางอะไหล่อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง ความดันลมยางที่ผิดปกติ อาจเป็นผลให้สูญเสียสมรรถนะในการควบคุม และอาจทำให้สึกหรอเร็ว และสึกหรอไม่เท่ากัน บางครั้งยางอาจเสียหายอย่างฉับพลัน จนไม่อาจควบคุมรถยนต์ได้ ดังนั้น การเติมลมยางให้ถูกต้องจะเป็นผลดีอย่างยิ่ง ในการทรงตัวของรถยนต์

    การตรวจเช็คลมยาง ควรปฏิบัติตามคู่มือการใช้รถที่ระบุไว้ และควรทำขณะยางเย็นไม่ได้ทำการวิ่ง เพราะว่าการขับขี่เพียงระยะสั้น ก็ทำให้เกิดความร้อนในตัวเอง และความดันยางก็จะเพิ่มขึ้นด้วย

    ยางทุกประเภทจะสึกหรออย่างรวดเร็ว เมื่อใช้งานที่ความเร็วสูง, การเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง, ออกตัวอย่างรวดเร็ว, การเบรกกะทันหัน, การขับขี่บนสภาพถนนที่ไม่ดีเป็นประจำ, การใช้งานนอกถนนทางหลวง, ถนนเป็นหลุมเป็นบ่อ, เศษหินหรือวัสดุอื่นเหล่านี้ สามารถทำความเสียหายให้กับยาง และทำให้ศูนย์ล้อคลาดเคลื่อนได้ เมื่อจำเป็นต้องขับบนสภาพถนนเหล่านั้น ควรขับขี่ด้วยความระมัดระวัง หลังจากผ่านพ้นไปแล้วให้ทำการตรวจสอบยางทันทีที่ทำได้

การใช้ยางที่บรรทุกน้ำหนักเกินอัตราเป็นอันตรายอย่างยิ่ง
    อัตราการบรรทุกน้ำหนักสูงสุดของยางที่ใช้ สามารถดูได้จากคู่มือการใช้รถ หรือ สติกเกอร์บริเวณตัวรถ (แต่ละรุ่นไม่เหมือนกัน) หรือ อักษรบนแก้มยาง หากบรรทุกเกินกำหนด จะส่งผลให้โครงสร้างของยางได้รับความเสียหาย และอาจเกิดอุบัติเหตุได้ในที่สุด

การสลับยาง การถ่วง
    เพื่อการใช้งานที่ยาวนาน และการสึกหรอที่เท่ากัน จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการสลับยางทุกๆ 10,000 กิโลเมตร เมื่อสลับยางทุกครั้งก็ควรทำการถ่วงยางด้วยทุกครั้ง มิฉะนั้นจะส่งผลถึงระบบบังคับเลี้ยว และการทรงตัวได้ แต่ถ้าหากมีอาการดังกล่าวเกิดขึ้น ก็ควรมีการปรับตั้งศูนย์ล้อ จะช่วยให้การขับขี่ที่ปลอดภัยและยืดอายุการใช้งานของยางได้นาน เช่นกัน

เมื่อไหร่ที่ต้องทำการเปลี่ยนยาง ? 
    โดยเฉลี่ย หือ ตามคู่มือการใช้รถระบุไว้ คือ 2 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน แต่ไม่ได้หมายความว่าถึงระยะกำหนดเช่นนี้เสมอไป เพราะบางครั้งขาดการบำรุงรักษาในส่วนต่างๆ เช่น ช่วงล่าง, บังคับเลี้ยวของรถยนต์ ก็จะส่งผลกระทบถึงยางรถยนต์ได้ ดังนั้น ก่อนทำการเปลี่ยนยาง ควรตรวจสอบช่วงล่างก่อนก็จะดีมากขึ้น

ท้ายนี้
    การนำรถยนต์เข้าตรวจเช็คตามระยะทางที่ศูนย์บริการทุกๆ 10,000 กิโลเมตรนั้น จะมีการตรวจสอบสภาพของยางให้ และมีการสลับยางและถ่วงยางไว้ให้อยู่แล้ว ดังนั้น ควรนำรถยนต์ของท่านเข้าตรวจเช็คตามระยะทางที่กำหนด ก็จะส่งผลดีต่อตัวท่านและรถยนต์ของท่าน หากมีข้อสงสัยประการใด ติดต่อกับเราได้ที่ www.phithan-toyota.com หรือ ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ โทร 02-9731269 ยินดีให้บริการค่ะ

เอาใจใส่ “ยาง” บ้างนะคะ
แผนกเทคนิคและฝึกอบรม
บริษัท พิธานพาณิชย์ จำกัด (กรุงเทพฯ)

แสดงความคิดเห็น (1)

ความเห็นที่ 1
สวัสดีครับ ผมใช้รถยนต์โตโยต้า ฟอจูนเนอร์ รุ่นsportivo สีขาว ตอนนี้ขับมาได้ ๔๐,๐๐๐ กม.เศษแล้ว ตอนซื้อใหม่ ๆ ยางค่อนข้างแข็ง วัดลมได้ ๔๐ จึงลดลมยางลงเหลือ ๓๕ ไม่ทราบว่าจะมีปัญหาหรือเปล่า แต่ก็ทำให้นุ่มนวลขึ้น
ปกติผมจะเข้าศูนย์พิธานฯที่ปัตตานี ครับ อ่านบทความแล้วไม่ทราบเหมือนกันว่าศูนย์ฯจะเปลี่ยนสลับยางให้หรือเปล่า เพราะผมขับเป็นอย่างเดียว เรื่องอื่น ๆ จะให้ศูนย์ฯจัดการ รถที่ผมใช้ ทะเบียน ฌฎ 7654 กทม
ถ้าจะกรุณาตอบให้ด้วยจะขอบพระคุณมาก ครับ
จาก : pisitpong
เมื่อ : 2010-07-21 10:27:51