phithan-toyota.com | พิธานพาณิชย์ จำกัด ศูนย์บริการและจำหน่ายรถยนต์โตโยต้าทุกรุ่น

บทความ

น้ำมันเฟืองท้ายโตโยต้า

หมวด ข้อมูล-ความรู้ทางเทคนิค | จำนวนคนอ่าน 165819 ครั้ง | เมื่อ : 15 พ.ย. 2550 | ส่งบทความนี้ให้เพื่อน

       ชุดเฟืองท้ายเป็นส่วนสำคัญอีกส่วนหนึ่งที่จำเป็นต่อการขับเคลื่อนของรถยนต์เพราะกำลังงานที่ถูกถ่ายทอดผ่านเพลากลางมา จะถูกชุดเฟืองท้ายเปลี่ยนทิศทางการส่งถ่ายกำลังงานไปยังล้อรถยนต์ จึงทำให้รถยนต์สามารถเคลื่อนที่ไปได้ นอกจากนี้ชุดเฟืองท้ายยังช่วยแบ่งแยกกำลังงานที่จะส่งไปยังล้อรถยนต์ ในกรณีรถยนต์ เปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนที่ จะทำให้ล้อด้านในหมุนช้ากว่าล้อด้านนอก จึงทำให้ไม่มีการลื่นไหล

โครงสร้างและการทำงานของชุดเฟืองท้าย
       ภายในชุดเฟืองท้าย ประกอบด้วยชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่จะทำหน้าที่ถ่ายทอดกำลังงานไปยังล้อรถยนต์ ได้แก่ เฟืองเดือยหมู,เฟืองบายศรี, เฟืองดอกจอก,เฟืองขับเพลาข้าง ซึ่งจะประกอบกันในตำแหน่งต่าง ๆ ดังรูป

 
 

        ชุดเฟืองท้ายทำงานโดยอาศัยการหมุนขบกันของเฟืองต่าง ๆ ซึ่งจะทำหน้าที่ต่าง ๆ กันดังนี้
        1. เฟืองเดือยหมทำหน้าที่ถ่ายทอดกำลังงานของเครื่องยนต์ไปยังเฟืองบายศรี
        2. เฟืองบายศร ทำหน้าที่เปลี่ยนทิศทางการถ่ายทอดกำลังงานที่ถ่ายทอดจากเฟืองเดือยหมู90 องศา เพื่อขับเพลาข้าง และลดอัตราทดเกียร์ คือ ลดความเร็วรอบ ให้เหมาะสมกับขนาดของล้อรถยนต์โดยเฟืองบายศรีจะหมุนช้ากว่าเฟืองเดือยหมู
        3. เฟืองดอกจอก ทำหน้าที่ แบ่งแยกกำลังงาน ที่จะส่งไปยังเพลาข้างซ้ายและขวา เพื่อความเร็วแตกต่างกันในขณะขับรถเลี้ยวโค้ง
        4. เฟืองข้าง ทำหน้าที่ ขับเพลาข้างเพื่อไปหมุนล้อรถยนต์


น้ำมันเฟืองท้ายโตโยต้า

       จากการทำงานของชุดเฟืองท้ายที่กล่าวมาข้างต้น แสดงให้เห็นว่าเฟืองท้ายจะมีการทำงานอยู่ตลอดเวลา ในขณะขับขี่บนถนนนอกจากนี้เฟืองท้ายยังถูกออกแบบให้เหมาะสมสำหรับการใช้งานที่ต้องทนต่อสภาพของพื้นผิวถนน และขนาดของน้ำหนักบรรทุกหรือแม้แต่การถ่ายทอดกำลังงานในขณะที่ความเร็วของเพลาข้างด้านซ้ายและขวา แตกต่างกันในขณะขับรถเลี้ยวโค้งและด้วยการทำงานของเฟืองโลหะต่าง ๆ ในชุดเฟืองท้าย ต้องรับแรงกดและการเสียดสีสูงมาก จึงจำเป็นที่จะต้อง
มีน้ำมันเฟืองท้ายช่วยหล่อลื่นปกป้องการสึกหรอที่จะเกิดขึ้นกับชิ้นส่วนเฟืองเหล่านั้น โตโยต้าจึงคิดค้นพัฒนาน้ำมันเฟืองท้ายโตโยต้า ให้เหมาะสมกับสภาพการทำงานและเฟืองท้ายของโตโยต้า ดังนี้
       1. น้ำมันเฟืองท้ายโตโยต้า SAE 90 API GL-5 สำหรับรถยนต์โตโยต้าทุกรุ่น ยกเว้น รถขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่มีระบบเฟืองท้ายแบบลิมิตเต็ดสลิป
       2. น้ำมันเฟืองท้ายโตโยต้า SAE 140 API GL-5 สำหรับรถยนต์ที่ใช้งานหนักและรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเฟืองท้าย SAE 140 API GL-5 อยู่เดิมแล้ว ยกเว้น รถขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่มีระบบเฟืองท้ายแบบลิมิตเต็ดสลิป
       3. น้ำมันเฟืองท้ายโตโยต้าแบบลิมิตเต็ดสลิป SAE 85W-90 LSDGL-5 สำหรับรถยนต์ HILUX 4X4 ,4 RUNNER , LAND , CRUISER

ส่วนประกอบของน้ำมันเฟืองท้ายโตโยต้า
      ประกอบด้วยส่วนผสมหลัก 2 ส่วน คือ
      1. น้ำมันหล่อลื่นพื้นฐาน ซึ่งเป็นน้ำมันหล่อลื่นบริสุทธิ์ที่ผ่านกระบวนการกลั่นโดยหอกลั่นสุญญากาศ
      2. สารเคมีเพิ่มคุณภาพ ได้แก่ สารเคมีเพิ่มคุณภาพประเภทต้านทานการรวมตัวกับออกซิเจน,ป้องกัน สนิม, ต้านทานการกัดกร่อน, ต้านทานการเกิดฟองและรับแรงกดสูง
คุณสมบัติของน้ำมันเฟืองท้ายโตโยต้า
      1. สามารถรับแรงกด แรงกระแทกได้สูง มีสารฟอสฟอรัสเคลือบที่ผิวเฟือง เพื่อป้องกันการสึกหรอ
      2. ต้านทานการเกิดฟองในน้ำมัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของระบบเฟืองท้าย
      3. สามารถต้านทานการรวมตัวกับออกซิเจนได้อย่างดีเยี่ยมน้ำมันจึงไม่สลายตัวแม้อยู่ในอุณหภูมิสูง
      4. สามารถป้องกันการเกิดสนิม และการกัดกร่อนที่ชิ้นส่วนต่าง ๆ ของชุดเฟืองท้ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
      5. ผ่านมาตรฐานการทดสอบ คุณสมบัติของโตโยต้า ประเทศญี่ปุ่น
         - ความต้านทานการเกิดปฏิกิริยากับออกซิเจน
         - ความต้านทานการเกิดปฏิกิริยากับซีล
         - ป้องกันการสึกหรอของลูกปืน
      6. ระยะเปลี่ยนถ่าย 20,000 กม. หรือ 1 ปี

 

ข้อแนะนำการใช้น้ำมันเฟืองท้ายโตโยต้า

  1. เพื่อให้ประสิทธิภาพการทำงานของชุดเฟืองท้ายเต็มสมรรถนะตลอดเวลา ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเฟืองท้ายทุก ๆ 20,000 กม. หรือ1 ปี
  2. การใช้น้ำมันหล่อลื่นชุดเฟืองท้าย จะขึ้นอยู่กับประเภทของชุดเฟืองท้าย ดังนี้
             2.1 ชุดเฟืองท้ายด้านหน้า แยกออกเป็น 2 แบบ คือ
                  - ชุดเฟืองท้ายด้านหน้าของรถยนต์ขับเคลื่อน 2 ล้อหน้าจะหล่อลื่นด้วยน้ำมันเกียร์ประเภทเดียวกับที่ใช้ในส่วนของระบบเกียร์
                  - ชุดเฟืองท้ายด้านหน้าของรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อจะหล่อลื่นด้วยน้ำมันเฟืองท้าย SAE90 API GL-5
             2.2 ชุดเฟืองท้ายด้านหลัง แยกออกเป็น 2 แบบ คือ
                  - ชุดเฟืองท้ายด้านหลังของรถยนต์ขับเคลื่อน 2 ล้อหลังจะหล่อลื่นด้วยน้ำมันเฟืองท้ายSAE 90 หรือ SAE 140 API GL-5
                  - ชุดเฟืองท้ายด้านหลังของรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อจะหล่อลื่นด้วยน้ำมันเฟืองท้ายแบบลิมิตเต็ดสลิปSAE 85W-90 LSD API GL-5 (ยกเว้น รถ RAV4 ใช้น้ำมันเฟืองท้าย SAE 90 API GL-5 )
  3. การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเฟืองท้ายควรจะใช้น้ำมันเฟืองท้ายชนิดเดียวกัน
  4. น้ำมันเฟืองท้ายที่ใช้จะต้องเป็นน้ำมันเฟืองท้ายมาตรฐานAPI GL-5 เท่านั้น เพราะถ้าใช้มาตรฐานAPI GL-4 ปริมาณสารเคมีเพิ่มคุณภาพประเภทรับแรงกดสูง ผสมอยู่ในปริมาณที่ไม่เหมาะสมกับการทำงานของชุดเฟืองท้ายซึ่งจะก่อให้เกิดผลเสียกับชุดเฟืองท้าย
  5. การตรวจสอบระดับน้ำมันเฟืองท้าย
             5.1 ยกรถขึ้นให้มีระดับเสมอกัน
             5.2 ถอดปลั๊กเติมน้ำมันออก
             5.3 สอดนิ้วเข้าไปในช่องเติมน้ำมัน และตรวจดูว่าปลายนิ้วสัมผัสถูกน้ำมันเฟืองท้ายหรือไม่ (น้ำมันเฟืองท้ายไม่ควรอยู่ต่ำกว่าช่องเติมน้ำมันเกิน 5 มม.)
             5.4 ถ้าน้ำมันอยู่ต่ำกว่าช่องเติมน้ำมันเกิน 5 มม. หรือปลายนิ้วสัมผัสไม่ถูกน้ำมันเฟืองท้ายให้เติมน้ำมันเฟืองท้ายลงไปจนได้ระดับที่กำหนดไว้
            5.5 ตรวจเช็คว่ามีรอยรั่วของเฟืองท้ายและเสื้อเพลาท้าย
            5.6 เช็คทำความสะอาดปลั๊กเติมน้ำมัน, ช่องเติมน้ำมัน และตรวจดูความเสียหายของปะเก็น
            5.7 ประกอบปลั๊กเติมน้ำมันเข้าที่เดิม
            5.8 ลดรถลง 
  6. การเปลี่ยนถ่านน้ำมันเฟืองท้าย
            6.1 ยกรถขึ้นให้มีระดับเสมอกัน
            6.2 วางถาดรองน้ำเฟืองท้ายใต้ปลั๊กถ่ายน้ำมัน
            6.3 คลายสกรูปลั๊กถ่ายน้ำมันเฟืองท้ายออก 1 รอบ ด้วยประแจแล้วใช้มือดันไว้เบา ๆ ขณะเดียวกัน ให้คลายสกรูออกจนกระทั่งพ้นเกลียวแล้วรีบดึงออกด้านข้าง
            6.4 ปล่อยให้น้ำมันเฟืองท้ายเก่าไหลออกมาให้หมด
            6.5 เช็คทำความสะอาดปลั๊กถ่ายน้ำมัน แล้วประกอบเข้าที่เดิมทำการขันให้แน่น
            6.6 ถอดปลั๊กเติมน้ำมันออก
            6.7 เติมน้ำมันเฟืองท้ายลงในช่องเติมน้ำมัน
            6.8 ตรวจสอบระดับน้ำมันเฟืองท้ายว่าอยู่ในระดับต่ำกว่าช่องเติมน้ำมันเกิน 5 มม. หรือไม่ โดยใช้นิ้วสอดเข้าไปในช่องเติมน้ำมันถ้าต่ำกว่าให้ค่อย ๆ เติมน้ำมันเฟืองท้ายลงไปอีกจนกระทั่งได้ระดับที่กำหนดไว้
            6.9 ตรวจเช็ครอยรั่วของเฟืองท้ายและเสื้อเพลาท้าย
            6.10 เช็คทำความสะอาดปลั๊กเติมน้ำมันและช่องเติมน้ำมัน
            6.11 ประกอบปลั๊กเติมน้ำมันเข้าที่เดิม ขันให้แน่น
            6.12 ลดรถลง

ข้อควรระวังในการตรวจสอบระดับและการเปลี่ยนถ่าย
น้ำมันเฟืองท้าย
 

 

  • ควรหลีกเลี่ยงการตรวจสอบระดับหรือเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเฟืองท้ายในขณะที่น้ำมันเฟืองท้ายยังร้อนอยู่ เพราะอาจจะถูกลวกมือได้
  • ควรตรวจดูให้แน่ใจก่อนว่า น้ำมันเฟืองท้ายที่จะเติมลงไปในเฟืองท้าย จะต้องเป็นน้ำมันเฟืองท้ายที่ตรงตามกำหนดไว้เพราะถ้าเติมน้ำมันเฟืองท้ายผิดประเภท อาจจะก่อให้เกิดความเสียหายกับชุดเฟืองท้ายได้
  •  

     

     

    หมวด ข้อมูล-ความรู้ทางเทคนิค | จำนวนคนอ่าน 165819 ครั้ง | เมื่อ : 15 พ.ย. 2550 | ส่งบทความนี้ให้เพื่อน

      แสดงความคิดเห็น (8)

    • ความเห็นที่ 1
    • นำมันเฟืองท้ายรั่วมีนำมันหยดทำอย่างไรครับ
    • จาก : เป้
    • เมื่อ : 2009-05-11 15:14:36
    • ความเห็นที่ 2
    • อยากรู้ประโยชน์เฟืองท้าย
    • จาก : คลีน
    • เมื่อ : 2009-09-11 13:18:24
    • ความเห็นที่ 3
    • เช็ดครับ... ^ ^
    • จาก : 555+
    • เมื่อ : 2009-09-29 16:20:44
    • ความเห็นที่ 4
    • วีโก้ ขับสองจะใช้ นำมันเฟืองท้าย GL-5 API SAE 90 ได้หรือไม่?
    • จาก : มกุฎเพชร
    • เมื่อ : 2009-10-01 13:35:40
    • ความเห็นที่ 5
    • รถโตโยต้า รุ่น 24 K DX เฟืองท้ายมีเสียงหอน จะแก้ไขอย่างไร อะไหล่มีเปลี่ยนไหม ราคาเท่าไร ติดต่อได้ที่ไหน มีรับประกันไหม
    • จาก : ประเสริฐ
    • เมื่อ : 2009-12-28 17:16:16
    • ความเห็นที่ 6
    • รถโตโยต้า รุ่น 24 K DX เฟืองท้ายมีเสียงหอน จะแก้ไขอย่างไร อะไหล่มีเปลี่ยนไหม ราคาเท่าไร ติดต่อได้ที่ไหน มีรับประกันไหม
    • จาก : ประเสริฐ
    • เมื่อ : 2009-12-28 17:21:53
    • ความเห็นที่ 7
    • เฟืองดัง เฟืองหอน ปรึกษาช่าง ตัน ได้ที่ ปั้มจันทร์เพ็ญหรือที่รู้จักกันทั่วไปคือ ปั้ม ป ต ท.ผาแดง ศรีราชา
    • จาก : ช่าง ตัน
    • เมื่อ : 2010-11-16 11:59:24
    • ความเห็นที่ 8
    • ขอบคุณทำบทความที่มีมานะคะ ทำให้พวกหนูมีรายงานส่งก่อนจบปวช ขอบคุณมากกกกกกกค่า
    • จาก : เด็กโปลีราชบุรี
    • เมื่อ : 2010-12-16 08:42:56

    NEW HILUX REVO D-Cab 2x4 ราคาเริ่มต้น 881,000 บาท

    พิเศษ : ขยายการรับประกัน 5 ปี หรือ 150,000 km. และฟรีค่าแรง 5 ปีหรือ 100,000 km.

    ขอใบเสนอราคา