สำหรับท่านผู้อ่านที่ใช้รถยนต์ที่มีระบบขับเคลื่อน 4x4 แบบ FULL TIME จะสังเกตได้ว่า จะมีคันเกียร์เล็กๆอยู่ใกล้ๆคันเกียร์อันใหญ่ๆ น่าจะมีอยู่ไม่น้อยที่ท่านเจ้าของรถไม่เคยให้มีการทำงานเลย จริงอยู่ว่า เมื่อรถยนต์เคลื่อนที่จะเป็นการขับเคลื่อนแบบ 4 ล้ออยู่แล้ว อาจจะมีคำถามว่าแล้วให้มาทำไม ขอตอบว่าส่วนที่ให้มานั้นเป็นการเพิ่มสมรรถนะของรถยนต์ ตามสภาพของเส้นทาง ระบบ จะเหมือนกับรถยนต์ “แลนด์ครุยเซอร์ พราโด้” ที่มีชื่อเสียงที่ล่ำลือกันไปทั่วโลกของโตโยต้า ดังนั้น ตรงจุดนี้เหละครับ เป็นการเลือกรูปแบบในการขับขี่ของระบบส่งกำลัง ในโอกาสนี้ทางทีมงานจะขอนำเสนอในส่วนที่เห็นว่าท่านผู้อ่านจะทำความเข้าใจได้แบบไม่ยากเย็นนัก ดังต่อไปนี้ครับ
อันดับแรกมาดูตัวอักษรบนหัวคันเกียร์หมายถึงอะไร?
LL = การเลือกใช้ในโหมดนี้จะมีไฟโชว์ติดขึ้นบนมาตรวัด กลไกการทำงานจะอยู่ภายในเกียร์ จะเป็นการล็อกเฟืองท้ายกลาง ใช้ในเส้นทางที่วิบากที่ใช้ความเร็วต่ำ
N = คือเกียร์ว่าง จะมีการหมุนฟรีภายในเกียร์ของระบบส่งกำลัง ในสมัยก่อนจะอาศัยตำแหน่งดังกล่าวในการล็อกที่ป้องกันการโจรกรรมรถยนต์อย่างหนึ่ง
HL = การเลือกใช้ในโหมดนี้ จะมีไฟโชว์ติดขึ้นบนมาตรวัด จะกลไกการทำงานก็อยู่ภายในเกียร์เป็นการล็อกเฟืองท้ายกลาง ใช้ในเส้นทางที่เรียบหรือถนนทั่วไป สามารถขับด้วยความเร็วได้
H = การขับขี่ที่เป็นการขับแบบปกติ เส้นทางเรียบทั่วไป จะไม่มีไฟโชว์ใดๆติดขึ้น
มาดูในส่วนของการเข้าเกียร์กันบ้าง
เกียร์ธรรมดา
จาก H ไป HL หรือ จาก HL ไป H เลื่อนคันเกียร์ได้เลย
จาก HL ไป LL ความเร็วต้องไม่เกิน 8 กม/ชม พร้อมการเหยียบครัช แล้วเลื่อนคันเกียร์
จาก LL ไป HL เหยียบครัช แล้วเลื่อนคันเกียร์
เกียร์อัตโนมัติ
จาก H ไป HL หรือ HL ไป H เลื่อนได้เลย
จาก HL ไป LL หรือ LL ไป HL ให้ทำการหยุดรถเหยียบเบรกค้างไว้เแล้วเลื่อนคันเกียร์
ตามที่กล่าวมานั้นเป็นอย่างคร่าวๆ ท่านผู้อ่านสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จากคู่มือการใช้รถครับ อีกจุดหนึ่งที่อยากให้มีการใช้งานบ้าง เพราะว่า ถึงแม้จะไม่ใช้งานแต่จะต้องมีการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันหล่อลื่นอยู่ดีนั่นเองตามระยะทางที่กำหนดครับ ดังนั้น เพื่อประสิทธิภาพของระบบที่ดี ควรกระทำตามที่ได้ระบุอยู่ในคู่มือการใช้รถครับ สวัสดีครับ...
มั่นใจใช้ดี มีประโยชน์
แผนกเทคนิคและฝึกอบรม