HYBRID 4th GENERATION ในรถยนต์ TOYOTA
ระบบไฮบริดเจเนอเรชันที่ 4 ในรถยนต์โตโยต้า ได้รับการพัฒนาเพื่อประสิทธิภาพการตอบสนองการขับขี่ที่ดียิ่งกว่า รวมถึงความประหยัดเชื้อเพลิงเป็นที่สุด มีความทนทาน โดยเฉพาะแบตเตอรี่ไฮบริด ไม่เพียงเท่านั้น มีการปรับปรุงใหม่ตั้งแต่ตัวเครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง ระบบควบคุม รวมถึงแบตเตอรี่ไฮบริดอีกด้วย
การปรับปรุงระบบไฮบริดเจเนอเรชันที่ 4 มีความประหยัดพลังงาน มีความเพลิดเพลินในการขับขี่ มีความพึงพอใจในการได้เป็นเจ้าของรถยนต์ที่มีความล้ำหน้าด้านเทคโนโลยี ส่วนจะมีสิ่งใดบ้างนั้นทางผู้เขียน ขอนำเสนอข้อมูลให้ทราบดังต่อไปนี้
- 1. ปรับการควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์และมอเตอร์ เพื่อให้ได้กำลังที่ดีที่สุดและประหยัดเชื้อเพลิง
- 2. ลดการสูญเสียพลังงาน 20% ในขั้นกระบวนแปลงพลังงาน
- 3. เปลี่ยนแบบการถ่ายทอดกำลังในชุดเกียร์ จากแบบเพลาร่วมเป็นเพลาคู่ เพื่อการส่งกำลังที่สั้นกว่า กะทัดรัดกว่า และการสูญเสียกำลัง
- 4. เพื่อประสิทธิภาพแบตเตอรี่ที่สูงขึ้น น้ำหนักที่เบาลงและมีขนาดเล็กลงโดยใช้ Hyper-prime Nickel แบตเตอรี่ไฮบริด มีการติดตั้งใต้เบาะผู้โดยสารด้านหลัง เพื่อประสิทธิภาพการระบายความร้อน และ เพื่อให้มีพื้นที่เก็บของท้ายรถได้มากขึ้น มีความทนทานต่ออุณหภูมิสูง ซ่อมแซมได้ รีไซเคิลได้ นำไปใช้ใหม่ได้ น้ำหนักเบา ราคาย่อมเยา
สำหรับในส่วนของการรับประกัน ระบบไฮบริด ทางผู้เขียนขอชี้แจงให้ทราบกันอีกครั้ง โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
- - แบตเตอรี่ไฮบริด มีการรับประกัน 10 ปี แบบไม่จำกัดระยะทาง
- - แบตเตอรี่เสริมไฮบริด ขนาด 12 โวล์ท มีการรับประกัน 3 ปี (ปีที่ 3 รับผิดชอบ 50%)
- - ระบบไฮบริด มีการรับประกัน 5 ปี แบบไม่จำกัดระยะทาง
อันดับต่อไป ไปกันต่อที่การรับประกันมูลค่าในอนาคตของรถเครื่องยนต์ไฮบริดหรือที่เรียกว่า GFV = Guaranteed Future Value เพื่อลดความกังวลด้านราคาขายต่อของรถยนต์ไฮบริด โดยที่ลูกค้าไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ เพิ่มขึ้นทั้งสิ้น โดยมีโตโยต้าชัวร์จะเป็นศูนย์กลาง ในการขายและแลกเปลี่ยนรถยนต์ไฮบริด ซึ่งจะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไข ตามที่กำหนดโดยต่อไปนี้
เงื่อนไขการรับประกัน GFV
- - รับประกันราคา ภายในระยะเวลา 5 ปี นับตั้งแต่วันส่งมอบรถยนต์
- - ระยะทางไม่เกิน 30,000 กิโลเมตรต่อปี หรือไม่เกิน 150,000 กิโลเมตร ภายในระยะเวลา 5 ปี
- - ใช้สิทธิ์ได้เฉพาะที่โชว์รูมโตโยต้าชัวร์ทั่วประเทศเท่านั้น
- - เฉพาะเจ้าของรถลำดับที่1 เท่านั้น หรือ ผู้ครอบครองรถ (กรณีสถาบันการเงินเป็นเจ้าของรถลำดับที่ 1)
- - จะไม่รับประกันมูลค่ารถในอนาคตสำหรับรถยนต์ซึ่งมีลักษณะเป็นรถรับจ้าง รถเช่าหรือรถสาธารณะ
- - รถต้องไม่มีประวัติอุบัติเหตุรุนแรง การซ่อมหนักหรือดัดแปลงโครงสร้าง
*หากมีข้อสงสัยหรือสอบถามเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่ โชว์รูมโตโยต้าชัวร์ได้ทั่วประเทศในส่วนของ GFV
ทางผู้เขียน ขอกล่าวโดยสรุปว่าข้อดีของระบบ TOYOTA HYBRID สามารถช่วยให้หรือได้สิ่งใดกลับมา ได้แก่
- 1. มีความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง (อ้างอิงได้จาก Eco Sticker ในรถยนต์ไฮบริดในแต่ละรุ่น)
- 2. ชาร์จไฟในตัวได้เองขณะขับขี่ สามารถแปลงพลังงานส่วนเกินให้เป็นพลังงานไฟฟ้าสะสม หมดกังวลเรื่องสถานีชาร์จไฟ
- 3. ออกตัวได้เร็วทันใจ ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า จึงออกตัวราบรื่นรวดเร็ว
- 4. ช่วยลดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม เมื่อขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า เครื่องยนต์จะหยุดทำงาน จึงไม่มีการปล่อยไอเสียสู่บรรยากาศ
- 5. ไร้เสียงรบกวนตลอดการเดินทาง ไม่มีเสียงรบกวนโดยสิ้นเชิง เมื่อขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า
- 6. บำรุงรักษาง่ายไม่จุกจิก รถยนต์ไฮบริดมีการบำรุงรักษาไม่แตกต่างจากเครื่องยนต์เบนซิน
ฝ่ายฝึกอบรม
บริษัท พิธานพาณิชย์ จำกัด (กรุงเทพฯ)