phithan-toyota.com | พิธานพาณิชย์ จำกัด ศูนย์บริการและจำหน่ายรถยนต์โตโยต้าทุกรุ่น

บทความ

ลองใช้ดูจะรู้ว่าดี จริงๆ

หมวด การใช้รถ | จำนวนคนอ่าน 34808 ครั้ง | เมื่อ : 20 ต.ค. 2552 | ส่งบทความนี้ให้เพื่อน

สำหรับรถยนต์ที่อาศัยน้ำมันเป็นเชื้อเพลิง  ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์เบนซินหรือดีเซลก็ตาม  นอกจากจะต้องเอาใจใส่กับตัวรถยนต์ทั้งหมดแล้วนั้น   อย่ามองข้ามในการเลือกใช้น้ำมันเชื้อเพลิงด้วยนะครับ  ปัจจุบันมีน้ำมันเชื้อเพลิงให้เลือกมากมายหลายชนิด  ในทางการยังส่งเสริมให้ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมจากผลผลิตทางการเกษตรพร้อมกับมีการจำหน่ายในราคาที่ถูกอีกด้วย 

 

แน่นอนหากใช้ได้เป็นสิ่งที่พึงปรารถนาอยู่แล้วสำหรับผู้บริโภค  แต่กระนั้นก็เถอะ  หากว่ามีการใช้งานไปแล้วมีผลดีอย่างเดียว  ไม่ส่งผลกระทบต่อต่อรถยนต์รวมถึงการรับรองจากผู้ผลิตรถยนต์ว่าสามารถใช้ได้   ก็แล้วไป 

 

ปัจจุบันราคาน้ำมันมีแต่จะสูงขึ้นแล้วไม่รู้ว่าจะหมดลงเมื่อไหร่  สมัยนี้รถยนต์ที่ผลิตออกมาใหม่สามารถรองรับเชื้อเพลิงใด้หลายรูปแบบ  เช่น     

 

เครื่องยนต์เบนซินสามารถใช้แก๊สโซฮอล์  E20 ,  E10  ได้หรือแม้กระทั่ง เป็นแบบ 2  ระบบ คือน้ำมันและก๊าซ  ทางด้านเครื่องยนต์ดีเซลก็สามารถใช้น้ำมันเชื้อเพลิง B5 ได้เป็นต้น 

 

การรณรงค์ให้ใช้ถือเป็นเรื่องที่ดีต่อเศรษฐกิจภายในประเทศที่เราๆทราบกันดีอยู่แล้ว  อย่างที่กล่าวมาตั้งแต่ต้นว่าถ้าไม่ส่งกระทบต่อเครื่องยนต์คงนิยมใช้กันอย่างแพร่หลายแน่ๆ  แต่อย่าลืมนะครับผู้ที่ใช้รถเก่า ยังมีอยู่เป็นจำนวนมาก   คาดว่าในอนาคตอันใกล้กระทรวงพลังงานคงผลักดันให้ใช้เชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมทางการเกษตรมากขึ้นตามลำดับ  ดังนั้นเจ้าของรถก็ต้องเปลียนไปใช้เชื้อเพลิงนั้นแน่ๆ       

 

น้ำมันเชื้อเพลิงที่มีอยู่ทุกสถานีบริการใช่จะมีความสะอาดหมดจด  ตราบใดในรถยนต์ยังมีชิ้นส่วนที่เรียกว่าไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิงติดตั้งมา   ไม่ว่าเชื้อเพลิงจะอยู่ในรูปแบบใดใช่ไหมครับ  หากใครที่เคยลองเปลี่ยนกรองเชื้อเพลิงตามระยะเวลาตามกำหนดจะเห็นได้ว่ามีความสกปรกเกิดขึ้นซึ่งสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน  ดังนั้นควรกระทำตามระยะเวลาตามกำหนดครับ       

 

ในเครื่องยนต์เบ็นซินจะไม่มีอุปกรณ์แยกน้ำจากน้ำมันเชื้อเพลิง  ผิดกับเครื่องยนต์ดีเซลจะมีอุปกรณ์ที่สามารถแจ้งเตือนเมื่อใดมีน้ำปนมากับน้ำมันเชื้อเพลิง  แต่ถึงอย่างไรก็มีบางส่วนเล็ดลอดเข้าสู่การเผาไหม้อยู่ดี  ดังเป็นไปไม่ได้ที่จะขจัดให้หมดสิ้นไป  ปัจจุบันทางโตโยต้าได้ผลิตน้ำยาล้างหัวฉีดออกมาจำหน่ายโดยน้ำยาตัวนี้สามารถช่วยให้เครื่องยนต์มีประสิทธิภาพดีขึ้น        

 

ในการนี้ขอยกตัวอย่างลูกค้าท่านหนึ่ง ( ไม่ขอเอ่ยนาม ) ใช้รถยนต์วีออสเป็นรถค่อนข้างใหม่และใช้น้อย นำรถเข้าตรวจเช็คตามปรกติที่ศูนย์บริการตามกำหนด   มีอยู่วันหนึงเกิดอาการ (ครั้งแรก) สตาร์ทติดยากไม่ใช่ตอนเช้าแต่เป็นหลังจากที่ขับรถมาแล้วและทำการดับเครื่องยนต์ทิ้งไว้ประมาณ 5  นาที  จากนั้นได้นำรถเข้ายังศูนย์บริการทำการตรวจสอบตามที่แจ้ง  พบว่าเป็นจริง  จึงสอบถามลูกค้าว่าเติมน้ำมันที่ใด  ลูกค้าบอกใช้บริการที่นี่เป็นประจำไว้ใจใด้  เมื่อเป็นดังนี้  ทางช่างเทคนิคจึงทำการวิเคราะห์ปัญหาด้วยเครื่องวิเคราะห์       

 

พบว่าปรกติ น้ำมันน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องอยู่บ้าง จากนั้นได้แนะนำลูกกค้าให้ทดลองใช้น้ำยาล้างหัวฉีดของโตโยต้าในการเติมน้ำมันในครั้งต่อไป  ต่อมาอีก  2  วัน ลูกค้าแจ้งกลับมาว่าไม่มีปัญหาใดเกิดขึ้นแล้ว (เหมือนรถใหม่เลย) ลูกค้าดีใจมาก  ดังนั้นเป็นไปใด้ที่มาจากน้ำมันอะไรที่แน่นอนอาจจะไม่แน่นอนเสมอไป        

 

สิ่งที่กล่าวมาอยากให้ผู้ใช้รถทุกท่านนึกถึงตรงจุดนี้สักเล็กน้อย  รถเมื่อถูกใช้มาระยะเวลาหนึ่งแล้วลองใช้น้ำยาล้างหัวฉีดของโตโยต้าบ้าง       

 

 ดังตัวอย่าง  จะเห็นใด้ว่าช่วยในการจุดระเบิดใด้เป็นอย่างดีเครื่องยนต์ทำงานสมบูรณ์   อย่างน้อยก็เป็นผลดีต่อเครื่องยนต์แน่ๆครับ  สำหรับชื่อเรียกของน้ำยาตัวนี้เรียกว่า น้ำยาล้างหัวฉีด ครับ  แต่จะใช้ในเครื่องยนต์เบนซินหรือดีเซลโปรดแจ้งให้พนักงานทราบด้วยครับ   ป้องกันการซื้อผิด  ส่วนด้านราคาก็จะแตกต่างกัน   ดังนั้นหาซื้อได้ทุกศูนย์บริการทั่วประเทศครับ

 

        

มั่นใจ   ใช้ดีแน่
แผนกเทคนิค และ ฝึกอบรม

หมวด การใช้รถ | จำนวนคนอ่าน 34808 ครั้ง | เมื่อ : 20 ต.ค. 2552 | ส่งบทความนี้ให้เพื่อน

    แสดงความคิดเห็น (2)

  • ความเห็นที่ 1
  • ขอบคุณสำหรับข้อมูลดี ๆ น่าเสียดายที่ไม่ได้ออกรถกับพิธานไว้คราวหน้าจะเป็นลูกค้าแน่นอนค่ะ
  • จาก : noodle
  • เมื่อ : 2009-10-27 09:52:04
  • ความเห็นที่ 2
  • โม้มั้ง ... ใส่แล้วไม่เห็นมีไรเกิดขึ้น
  • จาก : แมงเม่า
  • เมื่อ : 2010-03-04 09:48:08

NEW HILUX REVO D-Cab 2x4 ราคาเริ่มต้น 881,000 บาท

พิเศษ : ขยายการรับประกัน 5 ปี หรือ 150,000 km. และฟรีค่าแรง 5 ปีหรือ 100,000 km.

ขอใบเสนอราคา