ในรถยนต์ไฮบริด มีสิ่งต่างๆหรืออุปกรณ์ต่างๆที่ผู้ขับขี่บางท่านที่ยังไม่ค่อยชินหรือแม้กระทั่งมีความคุ้นเคยมากนัก เพราะเป็นเรื่องที่ใหม่ ดังนั้น เพื่อเป็นประโยชน์บวกกับการใช้งานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โอกาสนี้จึงขออนุญาตแนะนำวิธีการเบื้องต้น โดยเริ่มจาก
การเตรียมตัวก่อนการขับ
หลังจากการเปิดประตูแล้ว เข้าไปนั่งในตำแหน่งผู้ขับขี่ ให้สังเกตว่าเกียร์อยู่ในตำแหน่ง P หรือไม่ โดยดูได้จากตำแหน่งคันเกียร์หรือบนมาตรวัดก็ได้
ให้ทำการเหยียบเบรกค้างไว้กดปุ่ม Power เพื่อเปิดสถานะพร้อมขับ (เหมือนกับการบิดกุญแจสตาร์ทเครื่อง)
สังเกตตัวหนังสือบนมาตรวัดทางด้านซ้ายจะพบคำว่า READY สีเขียว จะมีการกะพริบ 1 ครั้ง พร้อมสัญญาณเสียง
เมื่อพบคำว่า READY ติดค้าง ก็เท่ากับว่าสามารถขับรถยนต์ได้
ขณะทำการกดปุ่ม power แล้วมีเสียงดังบริเวณเบาะนั่งด้านหลังเป็นการทำงานของรีเลย์ถือเป็นเรื่องปกติ
ขณะเข้าเกียร์ในตำแหน่ง P แม้ว่าเครื่องยนต์มีการทำงานอยู่ การเหยียบคันเร่ง เครื่องยนต์จะไม่มีการตอบสนอง
ขณะเข้าเกียร์ N การกดปุ่ม power ระบบจะไม่ทำงาน แต่ระบบจะมีการเตือนให้เข้าเกียร์ p ก่อน จึงจะเปิดระบบให้พร้อมใช้งาน
เมื่อต้องการออกตัว
ให้ทำการปลด parking brake แล้วทำการเลื่อนคันเกียร์ไปตำแหน่ง D (จะเหยียบเบรกก่อนการเลื่อนเกียร์ก็สามารถทำได้หรือไม่เหยียบก็ได้แต่จะมีความนุ่มนวลที่แตกต่างกัน) พร้อมการเหยียบคันเร่งเบาๆเพื่อไต่ความเร็วไปเรื่อยๆ
ในการออกตัวทุกครั้งจะใช้ไฟฟ้าแต่ถ้ากำลังในแบตเตอรี่ต่ำ เครื่องยนต์จะมีการสั่งติดโดยอัตโนมัติจากนั้นจะใช้เครื่องยนต์ในการขับเคลื่อนแทน
เมื่อถึงความเร็วระดับหนึ่ง เครื่องยนต์จะติด จากนั้นก็จะเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า ทั้งนี้และทั้งนั้นขึ้นอยู่กับการกดคันเร่งและปริมาณไฟฟ้าในแบตเตอรี่ไฮบริด
เมื่อต้องเร่งความเร็ว
การกดคันเร่งอย่างรวดเร็วไม่ว่าจะเป็นการเร่งความเร็วหรือขับขึ้นทางชัน มอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์จะช่วยกันขับเคลื่อนพร้อมกับกำลังไฟในแบตเตอรี่ไฮบริดจะเสริมกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้าเพื่อให้ได้กำลังขับสูงสุด
การวิ่งด้วยความเร็วคงที่ จะเป็นการขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์และเสริมกำลังด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าตลอดเวลา
แนะนำการเบรก
การชะลอความเร็วสามารถทำได้ทั้งการเบรกหรือการเข้าเกียร์ในตำแหน่ง B
ไม่ควรขับกระชั้นชิดรถยนต์คันหน้ามากเกินไป
ให้ทำการค่อยๆเหยียบเบรกให้รถชะลอตัว เพื่อให้ระบบมีการชาร์จไฟเข้าในแบตเตอรี่ไฮบริด หากมีการเบรกที่รุนแรงโอกาสที่จะมีการชาร์จไฟน้อยลง
การใช้เกียร์ B สามารถโยกคันเลื่อนเกียร์โดยการเลื่อนจาก D ไป B ความเร็วของรถยนต์ก็จะลดลงด้วยแรงหน่วงจากมอเตอร์ไฟฟ้า จะช่วยลดการสึกหรอของผ้าเบรก นอกจากนั้น ยังช่วยในการชาร์จไฟเข้าในแบตเตอรี่ไฮบริดอีกด้วย
ในเมื่อกล่าวถึงการชาร์จไฟ จะมีเงื่อนไขและสภาวะของการชาร์จไฟอยู่ อย่างเช่น หากรถยนต์มีการจอด ควรเลื่อนคันเกียร์ไปในตำแหน่ง P เพราะจะมีการชาร์จไฟ แต่ถ้าอยู่ในตำแหน่งเกียร์ N จะไม่มีการชาร์จไฟแต่อย่างใด ก็เท่ากับว่าเครื่องยนต์จะต้องทำงานบ่อยขึ้น การสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงย่อมมีมากขึ้นตามลำดับ ตรงจุดนี้ หากมีข้อสงสัย สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จากคู่มือการใช้รถครับ
และที่กล่าวมาแล้วนั้นเป็นการชี้แจงเบื้องต้นเท่านั้นที่ควรทราบ ยังมีส่วนต่างๆอีกที่จะต้องทราบไว้ ดังเช่น ข้อมูลใน www.phithan-toyota.com ที่เป็นบทความเกี่ยวกับข้อมูล hybrid ท่านสามารถเข้าไปดูได้ตามอัธยาศัยหรือสามารถโทรสอบถามได้ที่ 02-9731268-9 (call center) ได้ในเวลาทำการ ท้ายนี้ขอให้ผู้อ่านทุกท่านโชคดี มีชัย ตลอดจนสุขภาพอนามัยแข็งแรงทุกท่านครับ...