phithan-toyota.com | พิธานพาณิชย์ จำกัด ศูนย์บริการและจำหน่ายรถยนต์โตโยต้าทุกรุ่น

บทความ

การให้สัญญาณของรถยนต์

หมวด การใช้รถ | จำนวนคนอ่าน 28392 ครั้ง | เมื่อ : 16 ต.ค. 2550 | ส่งบทความนี้ให้เพื่อน
การให้สัญญาณขณะขับขี่รถยนต์ถือว่าเป็นเรื่องที่จำเป็น เพื่อแจ้งสถานะของรถว่าจะวิ่งไปในทิศทางใด หรือ กำลังจะทำอะไร ไฟสัญณาณต่างๆ มีส่วนช่วยด้านความปลอดภัยและลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุ แก่ผู้ใช้รถใช้ถนน ไม่เพียงแต่ตัวท่านเองแล้ว ผู้ขับขี่ท่านอื่นก็ได้ประโยชน์ด้วยเช่นกัน 
ยังไม่มีรถยนต์ประเภทไหน? ไร้ผู้ขับขี่ แม้แต่รถยนต์บังคับ ยังมีผู้ควบคุมไฉนเลยกับรถยนต์ ในการขับขี่ของแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน บนถนนในเมืองหลวง หรือ เมืองใหญ่ๆ ตลอดจนหนทางอื่นๆ เมื่อมีการจราจรที่คับคั่ง จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีความระมัดระวัง ไม่ว่ารถยนต์ของตนเองและผู้อื่น ถ้าผู้ใช้รถยนต์ทุกท่านเคารพในกฎจราจร ก็จะมีความสุขกับการเดินทางตลอดจนการขับขี่ ความปลอดภัยย่อมเกิดขึ้น แต่ในสภาวะปัจจุบัน สังคมสับสนวุ่นวาย ทำให้มนุษย์มีความเห็นแก่ตัวมากขึ้น การมีน้ำใจให้แก่กันน้อยลง  เกิดความใจร้อนกันมากขึ้น การขับขี่แบบไม่มีมารยาทมากขึ้น การให้สัญญาณต่างๆ น้อยลงบ่อยครั้งที่พบการขับขี่แบบไม่ให้สัญญาณ ทั้งๆที่มีอุปกรณ์ให้มาครบพร้อมกับตัวรถยนต์ แต่ไม่รู้ยังไงถึงไม่ใช้กัน ส่วนใหญ่สังเกตได้บนทุกๆเส้นทางของถนน นึกอยากจะทำไร ไปทางไหน ตามใจชอบ ไม่นึกถึงผู้ที่ใช้รถใช้ถนนท่านอื่น (ผู้ที่ทำดีอยู่แล้วอย่าถ้อแท้)การที่มีอุปกรณ์แล้วไม่ใช้ จะแนะนำอย่างไรดี อันนี้ผู้ขับขี่รู้อยู่แก่ใจ สิ่งที่ควรให้สัญญาณก็ควรให้ ทำให้เกิดเป็นปกตินิสัย ความปลอดภัยจะมากขึ้นตามลำดับ ถ้าหากว่าอุปกรณ์นั้นชำรุดใช้การไม่ได้ รีบแก้ไข อย่าช้า ทุกชิ้นส่วนที่อยู่ในรถยนต์มีส่วนสำคัญทั้งนั้นอย่าการให้สัญญาณขณะขับขี่รถยนต์ถือว่าเป็นเรื่องที่จำเป็น เพื่อแจ้งสถานะของรถว่าจะวิ่งไปในทิศทางใด หรือ กำลังจะทำอะไร ไฟสัญณาณต่างๆ มีส่วนช่วยด้านความปลอดภัยและลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุ แก่ผู้ใช้รถใช้ถนน ไม่เพียงแต่ตัวท่านเองแล้ว ผู้ขับขี่ท่านอื่นก็ได้ประโยชน์ด้วยเช่นกัน ยังไม่มีรถยนต์ประเภทไหน? ไร้ผู้ขับขี่ แม้แต่รถยนต์บังคับ ยังมีผู้ควบคุมไฉนเลยกับรถยนต์ ในการขับขี่ของแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน บนถนนในเมืองหลวง หรือ เมืองใหญ่ๆ ตลอดจนหนทางอื่นๆ เมื่อมีการจราจรที่คับคั่ง จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีความระมัดระวัง ไม่ว่ารถยนต์ของตนเองและผู้อื่น ถ้าผู้ใช้รถยนต์ทุกท่านเคารพในกฎจราจร ก็จะมีความสุขกับการเดินทางตลอดจนการขับขี่ ความปลอดภัยย่อมเกิดขึ้น แต่ในสภาวะปัจจุบัน สังคมสับสนวุ่นวาย ทำให้มนุษย์มีความเห็นแก่ตัวมากขึ้น การมีน้ำใจให้แก่กันน้อยลง เกิดความใจร้อนกันมากขึ้น การขับขี่แบบไม่มีมารยาทมากขึ้น การให้สัญญาณต่างๆ น้อยลงบ่อยครั้งที่พบการขับขี่แบบไม่ให้สัญญาณ ทั้งๆที่มีอุปกรณ์ให้มาครบพร้อมกับตัวรถยนต์ แต่ไม่รู้ยังไงถึงไม่ใช้กัน ส่วนใหญ่สังเกตได้บนทุกๆเส้นทางของถนน นึกอยากจะทำไร ไปทางไหน ตามใจชอบ ไม่นึกถึงผู้ที่ใช้รถใช้ถนนท่านอื่น (ผู้ที่ทำดีอยู่แล้วอย่าถ้อแท้)การที่มีอุปกรณ์แล้วไม่ใช้ จะแนะนำอย่างไรดี อันนี้ผู้ขับขี่รู้อยู่แก่ใจ สิ่งที่ควรให้สัญญาณก็ควรให้ ทำให้เกิดเป็นปกตินิสัย ความปลอดภัยจะมากขึ้นตามลำดับ ถ้าหากว่าอุปกรณ์นั้นชำรุดใช้การไม่ได้ รีบแก้ไข อย่าช้า ทุกชิ้นส่วนที่อยู่ในรถยนต์มีส่วนสำคัญทั้งนั้นอย่าปล่อยปละละเลย และในการนี้ ขอกล่าวถึง สัญญาณไฟเลี้ยวและไฟกระพริบฉุกเฉิน ด้านของไฟเลี้ยวนั้น ให้ดันสวิทช์ขึ้นหรือลง เมื่อต้องการเลี้ยวซ้ายหรือเลี้ยวขวา คันสวิทช์จะคืนกลับเองหลังจากเลี้ยวรถ แต่ในบางครั้งในการใช้เพื่อขอเปลี่ยนช่องทางวิ่ง อาจจะต้องช่วยดึงกลับด้วย ขณะที่ใช้สัญญาณไฟเลี้ยว ไฟสัญญาณรูปลูกศรสีเขียวบนแผงหน้าปัทม์ แสดงว่าไฟเลี้ยวทำงาน หากไม่กระพริบ หรือ กระพริบเร็วผิดปกติ แสดงว่าหลอดไฟเลี้ยวข้างนั้น หลอดใดหลอดหนึ่งขาด ถ้าหากไม่ติดก็แสดงว่าฟิวส์หรือหลอดไฟสัญญาณที่แผงหน้าปัทม์ขาด หากไม่สามารถแก้ไขหรือตรวจสอบด้วยตนเองได้ ให้ปรึกษาช่างผู้ชำนาญงานเป็นดีที่สุดครับ ทางด้านของไฟฉุกเฉิน เมื่อกดสวิทช์ลง สัญญาณไฟกระพริบฉุกเฉินจะทำงาน ไฟเลี้ยวทุกดวงจะกระพริบไม่ว่าจะเครื่องยนต์จะติดหรือดับ โดยสัญญาณนี้ จะแจ้งให้ผู้อื่นทราบว่า รถมีความจำเป็นต้องหยุดจอด หรือ ทำการอันใดอันหนึ่ง เมื่อใช้สัญญาณนี้ไฟเลี้ยวจะใช้การไม่ได้ ถือเป็นเรื่องปกติครับ ดังนั้น การให้สัญญาณขณะขับขี่ เป็นผลดีต่อตัวคุณ ตลอดจนเพื่อนร่วมทางครับ อุปกรณ์ทุกอุปกรณ์ในเมื่อมีแล้ว ควรใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุดครับ ยกเว้น ***ถุงลมนิรภัย (AIR BAG)*** ท้ายนี้ขอให้ผู้อ่านทุกท่านโชคดีและมีความสุขทุกๆท่าน สวัสดีครับละเลย และในการนี้ ขอกล่าวถึง สัญญาณไฟเลี้ยวและไฟกะพริบฉุกเฉิน ด้านของไฟเลี้ยวนั้น ให้ดันสวิทช์ขึ้นหรือลง เมื่อต้องการเลี้ยวซ้ายหรือเลี้ยวขวา คันสวิทช์จะคืนกลับเองหลังจากเลี้ยวรถ แต่ในบางครั้งในการใช้เพื่อขอเปลี่ยนช่องทางวิ่ง อาจจะต้องช่วยดึงกลับด้วย ขณะที่ใช้สัญญาณไฟเลี้ยว ไฟสัญญาณรูปลูกศรสีเขียวบนแผงหน้าปัทม์ แสดงว่าไฟเลี้ยวทำงาน หากไม่กะพริบ หรือ กะพริบเร็วผิดปกติ แสดงว่าหลอดไฟเลี้ยวข้างนั้น หลอดใดหลอดหนึ่งขาด ถ้าหากไม่ติดก็แสดงว่าฟิวส์หรือหลอดไฟสัญญาณที่แผงหน้าปัทม์ขาด หากไม่สามารถแก้ไขหรือตรวจสอบด้วยตนเองได้ ให้ปรึกษาช่างผู้ชำนาญงานเป็นดีที่สุดครับ

ทางด้านของไฟฉุกเฉิน เมื่อกดสวิทช์ลง สัญญาณไฟกะพริบฉุกเฉินจะทำงาน ไฟเลี้ยวทุกดวงจะกะพริบไม่ว่าจะเครื่องยนต์จะติดหรือดับ โดยสัญญาณนี้ จะแจ้งให้ผู้อื่นทราบว่า รถมีความจำเป็นต้องหยุดจอด หรือ ทำการอันใดอันหนึ่ง เมื่อใช้สัญญาณนี้ไฟเลี้ยวจะใช้การไม่ได้ ถือเป็นเรื่องปกติครับ
ดังนั้น การให้สัญญาณขณะขับขี่ เป็นผลดีต่อตัวคุณ ตลอดจนเพื่อนร่วมทางครับ อุปกรณ์ทุกอุปกรณ์ในเมื่อมีแล้ว ควรใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุดครับ ยกเว้น ***ถุงลมนิรภัย (AIR BAG)*** ท้ายนี้ขอให้ผู้อ่านทุกท่านโชคดีและมีความสุขทุกๆท่าน สวัสดีครับ

ปลอดภัยกับไฟสัญญาณ
แผนกเทคนิคและฝึกอบรม
บริษัท พิธานพาณิชย์ จำกัด (กรุงเทพฯ)

หมวด การใช้รถ | จำนวนคนอ่าน 28392 ครั้ง | เมื่อ : 16 ต.ค. 2550 | ส่งบทความนี้ให้เพื่อน

เลือกซื้อสินค้าออนไลน์ Trumq