รถยนต์มีส่วนประกอบอยู่มากมายหลายพันชิ้น ซึ่งชิ้นส่วนของรถยนต์แต่ละชิ้นล้วนแต่มีความสำคัญทุกชิ้น ระบบช่วงล่าง ระบบเบรก ระบบเครื่องยนต์ หรือแม้กระทั่งยางรถยนต์ซึ่งหลายท่านอาจจะเคยเห็นอักษรภาษาอังกฤษบนแก้มยางแต่ก็ไม่ทราบถึงความหมายของอักษรเหล่านั้น ซึ่งจริง ๆ แล้วอักษรเหล่านั้นบ่งบอกคุณลักษณะของยางและในวันนี้เราจะมาไขปริศนาของอักษรบนแก้มยางไปพร้อม ๆ กันครับ
ยางรถยนต์ มีส่วนของโครงยางเพื่อรักษารูปทรงของยาง และเสริมความแข็งแรงในการรับน้ำหนักรถและน้ำหนักบรรทุก มีหน้ายางที่สัมผัสผิวถนน มีขอบยางเพื่อประกอบเข้ากับขอบกระทะล้อ และมีส่วนอื่นๆ ประกอบกันเป็นยางรถยนต์ ทุกส่วนล้วนทำหน้าที่และมีความสำคัญไม่แพ้กัน และส่วนหนึ่งของยางรถยนต์ที่จะกล่าวถึงในตอนนี้ก็คือ แก้มยาง เป็นส่วนของยางที่มีความบางมากกว่าส่วนอื่นๆ เพื่อประโยชน์ในการดูดซับการสั่นสะเทือนจากพื้นถนนขณะขับขี่ จึงควรดูแลรักษาและใช้งานด้วยความระมัดระวัง เพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานของยาง
การเลือกซื้อยางรถยนต์ มิได้สำคัญแค่ ยี่ห้อ รุ่น ขนาด และราคาเท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายปัจจัยที่คุณจะต้องสนใจครับ และมักจะปรากฏอยู่บนแก้มยางครับ ซึ่งรายละเอียดของแก้มยางมีมากมายแต่ก็มิได้สำคัญไปทุกตัวอักษร คุณจึงควรเลือกอ่านและเลือกทำความเข้าใจครับ
ขนาด รหัสบอกขนาดยาง เช่น 265 / 65R17 112S 265 คือ ความกว้างของหน้ายาง ส่วน 65 จะเป็นซีรี่ส์ หรือความสูงของแก้มยางทั้งหมด ส่วน R คือ ตัวย่อประเภทของยาง R-RADIAL ยางเสริมใยเหล็ก 17 คือ เส้นผ่านศูนย์กลางของกระทะล้อซึ่งต้องพอดีกับยาง 112 คือ รหัสการรับน้ำหนัก ซึ่งตัวเลขตรงนี้ต้องดูในตารางเปรียบเทียบ ไม่สามารถคาดเดาได้ และ S คือ ความเร็วสูงสุดที่ยางเส้นนั้นรองรับได้ ต้องดูในตารางเปรียบเทียบ
ดัชนีการรับน้ำหนัก
ค่าดัชนี | กิโลกรัม |
---|---|
80 | 450 |
81 | 462 |
82 | 475 |
83 | 487 |
84 | 500 |
85 | 515 |
86 | 530 |
87 | 545 |
88 | 560 |
89 | 580 |
90 | 600 |
ค่าดัชนี | กิโลกรัม |
---|---|
91 | 615 |
92 | 630 |
93 | 650 |
94 | 670 |
95 | 690 |
96 | 710 |
97 | 730 |
98 | 750 |
99 | 775 |
100 | 800 |
101 | 825 |
ค่าดัชนี | กิโลกรัม |
---|---|
102 | 850 |
103 | 870 |
104 | 900 |
105 | 925 |
106 | 950 |
107 | 975 |
108 | 1000 |
109 | 1030 |
110 | 1060 |
111 | 1090 |
112 | 1120 |
ดัชนีความเร็วสูงสุดที่ยางเส้นนั้นรองรับได้
Symbol | Speed (Km/h) | Speed (Mph) |
---|---|---|
B | 50 | 31 |
C | 60 | 37 |
D | 65 | 40 |
E | 70 | 43 |
F | 80 | 50 |
G | 90 | 56 |
J | 100 | 62 |
K | 110 | 68 |
L | 120 | 75 |
M | 130 | 81 |
N | 140 | 87 |
Symbol | Speed (Km/h) | Speed (Mph) |
---|---|---|
P | 150 | 93 |
Q | 160 | 99 |
R | 170 | 106 |
S | 180 | 115 |
T | 190 | 118 |
U | 200 | 124 |
H | 210 | 130 |
V | 240 | 150 |
W | 270 | 169 |
Y | 300 | 188 |
ZR | >240 | >150 |
ขนาดกระทะล้อกับเส้นรอบวงของยาง เส้นผ่าศูนย์กลางของกระทะล้อ ไม่ได้วัดถึงริมนอกสุดของกระทะล้อ แต่จะวัดจากขอบกระทะส่วนที่แนบกับขอบยางด้านใน มีคำถามอยู่เสมอ ๆ ว่า ใส่ยางขอบ 16-17 แทนขอบ 15 นิ้วเวลาเลี้ยวจะติดบังโคลนหรือไม่ หรือยางจะสูงขึ้นมากหรือไม่ ถ้าคุณดูที่ตัวเลข จากตัวเลข 15 16 17 18 เมื่อเห็นว่าตัวเลขมาก ก็มักจะสรุปว่ายางขอบ 17 นิ้ว ต้องใหญ่กว่า ขอบ 15 นิ้ว การถามเช่นนั้นไม่สามารถให้คำตอบได้ เพราะตัวเลขที่บอก เป็นขนาดกระทะล้อสำหรับใส่ยางเท่านั้น วงนอกสุดหรือเส้นรอบวงของยาง ต้องขึ้นอยู่กับความสูงของแก้มยาง ซึ่งขึ้นอยู่กับความกว้าง และซีรี่ส์ของยางโดยตรง ยางขอบ 16 นิ้ว แก้มสูง ๆ อาจมีความสูงโดยรวมมากขอบ 17 นิ้วก็อาจเป็นไปได้ครับ
ยางรถยนต์สามารถหมดอายุได้แม้ดอกยังไม่หมด เช่น ยางเก่าเก็บ รถยนต์ใช้งานไม่มาก จอดมากกว่าขับ ทำให้หน้ายางไม่ค่อยสึก แต่ยางก็หมดอายุได้ จากการหมดสภาพทั้งของโครงสร้างภายใน และความแข็งของเนื้อยาง เพราะโดยพื้นฐานของผลิตภัณฑ์ยางทุกประเภท จะแข็งตัวขึ้นเรื่อยๆ ตามความร้อนและเวลาที่ผ่านไป เนื้อยางที่แข็ง ย่อมมีแรงเสียดทานน้อยลงหรือลื่นขึ้นนั่นเอง
โดยเฉลี่ยแล้ว แม้ดอกยางยังไม่หมด ก็ไม่ควรใช้งานเกิน 3 ปี ถ้าจะใช้เกิน ควรพิจารณาความแข็ง การแตกลายงา หรือการแตกปริของเนื้อยางอย่างละเอียด
การเลือกซื้อยาง ควรเลือกยางที่มีคุณภาพ ขนาดยางต้องเหมาะสมกับกระทะล้อ เพื่อการใช้งานที่มีประสิทธิภาพและประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง เพียงเท่านี้รถยนต์ของคุณก็จะมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้นและยังประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงอีกด้วยครับ ท้ายนี้ขอให้ผู้อ่านทุกท่านโชคดี และมีความสุข แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้าสวัสดีครับ
เลือกสรรซักนิด ก่อนคิดจะเปลี่ยน
ฝ่ายฝึกอบรม สาขาทวีวัฒนา
บริษัท พิธานพาณิชย์ จำกัด(กรุงเทพฯ)