phithan-toyota.com | พิธานพาณิชย์ จำกัด ศูนย์บริการและจำหน่ายรถยนต์โตโยต้าทุกรุ่น

บทความ

GASOHOL พลังงานจากพืชสีเขียว ตามแนวพระราชดำริ

หมวด บทความทั่วไป | จำนวนคนอ่าน 8281 ครั้ง | เมื่อ : 19 ม.ค. 2550 | ส่งบทความนี้ให้เพื่อน

ปัญหาราคาน้ำมันพุ่งขึ้นอย่างน่าตกใจ ตลอดปี 2544 ที่ผ่านมา และต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ทำให้ผู้ใช้รถในประเทศที่ไม่มี บ่อน้ำมันเป็นของตนเอง ประมาณกันไปต่างๆนาๆ ว่าซักวัน น้ำมันอาจจะมีค่ามากกว่าทอง เนื่องจากปัจจัยความขัดแย้ง ทางการเมือง ระหว่างประเทศมหาอำนาจ ทำให้คนไทยอย่างเราๆ เลือกวิธีช่วยเหลือตัวเอง แทนที่จะไปรอใคร ในเมื่อเราไม่มีบ่อน้ำมันเป็นของตัวเอง  ก็เลยต้องมาหาดูซิว่า ยังพอมีอะไรในโลกนี้อีกบ้าง ที่สามารถนำมาซึ่งพลังงานขับเคลื่อนได้อย่างน้ำมันเบนซิน และแล้วจากแนวทาง พระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็จุดประกาย ให้เกิดพลังงานที่เรียกว่า " แก๊สโซฮอล์" ขึ้นมาจนได้ 
 
  ความเป็นมาของ " แก๊สโซฮอล์" ในประเทศไทย
  - เกิดขึ้นจากแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อปี พ.ศ. 2528 ที่ทรงเล็งเห็นว่า ประเทศไทยอาจประสบปัญหา การขาดแคลนน้ำมันและปัญหาพืชผลทางการเกษตร มีราคาตกต่ำจึงทรงมีพระราชดำริ ให้โครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา ศึกษาถึงการนำอ้อยมาแปรรูป เป็นแอลกอฮอล์ โดยการนำแอลกอฮอล์ที่ผลิตได้นี้ มาผสมกับน้ำมันเบนซิน ผลิตเป็นน้ำมัน "แก๊สโซฮอล์" (GASOHOL) เพื่อใช้เป็นพลังงานทดแทน
  - ปีพ.ศ. 2529 ทางโครงการส่วนพระองค์ ได้เริ่มผลิตแอลกอฮอล์จากอ้อย หลังจากนั้นได้มีหน่วยงานรัฐ และเอกชนให้ความ ร่วมมือ ในการพัฒนาแอลกอฮอล์ ที่ใช้เติมรถยนต์อย่างต่อเนื่อง
  - จนเมื่อปี พ.ศ. 2539 การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย(ปตท.) ร่วมกับสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วท.) และโครงการส่วนพระองค์ ได้ร่วมกันปรับปรุงคุณภาพแอลกอฮอล์ ที่ใช้เติมรถยนต์ โดยการนำแอลกอฮอล์ที่โครงการส่วนพระองค์ ผลิตได้ ที่มี ความบริสุทธิ์จากเดิม 95% ไปกลั่นซ้ำเป็นแอลกอฮอล์ บริสุทธิ์ 99.5% แล้วจึงนำมาผสมกับน้ำมันเบนซินธรรมดา ในอัตรา
แอลกอฮอล์ 1 ส่วนกับเบนซิน 9 ส่วน เป็นน้ำมัน "แก๊สโซฮอล์" ทดลองเติมให้กับรถยนต์เบนซินของโครงการส่วนพระองค์
  - ปัจจุบัน รถเครื่องยนต์เบนซินของโครงการส่วนพระองค์ได้เติมแก๊สโซฮอล์เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงจากสถานีบริการน้ำมัน ปตท.  ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา
   
  ส่วนประกอบของแก๊สโซฮอล์
              - "แก๊สโซฮอล์" ที่ ปตท.ออกจำหน่ายเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงที่ได้จากการผสมระหว่างเอธานอล (Ethanal) หรือที่เรียกว่า เอทธิลแอลกอฮอล์( Ethyl Alcohol)ซึ่งเป็นแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ 99.5% โดยปริมาตรผสม กับน้ำมันเนซินชนิดธรรมดาไร้สารตะกั่ว (URL 91)ในอัตราส่วนเบนซิน 9 ส่วน เอธานอล 1 ส่วน จึงได้เป็น น้ำมันแก๊สโซฮอล์ ที่มีคุณสมบัติเช่นเดียวกับน้ำมันเบนซินพิเศษไร้สารตะกั่วออกเทน 95
              - การผสมแอลกอฮอล์ลงในน้ำมันเบนซินในข้างต้น เป็นใน ลักษณะของสารเติมแต่งปรับปรุงค่า Oxygenates และออกเทน (Octrane) ของน้ำมันบนซินซึ่งสามารถใช้ทดแทนสารเติมแต่งชนิดอื่นที่นิยมใช้ ในปัจจุบันคือ Methyl-Tertiary-Butyl-Ether(MTBE)
              - อนึ่ง เอธานอล หรือ เอทธิลแอลกอฮอล์ เป็นแอลกอฮอล์ที่ได้ จากการแปรรูปจากพืชจำพวกแป้งและน้ำตาล เช่น อ้อย ข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง ฯลฯ 
   
  คุณสมบัติของแก๊สโซฮอล์ที่ออกจำหน่าย
              - แก๊สโซฮอล์ ที่มีจำหน่ายขณะนี้มีคุณสมบัติ เช่นเดียวกับน้ำมันเบนซินพิเศษไร้สารตะกั่วออกเทน 95 (สีเหลือง)สามารถใช้ได้กับรถยนต์ทุกรุ่นที่ใช้น้ำมันเบนซิน
  - ไม่มีความแตกต่างกันในเชิงคุณสมบัติของน้ำมันมีคุณสมบัติอยู่ในเกณฑ์ข้อกำหนด ได้แก่
     1.ออกเทน ไม่ต่ำกว่า 95.0
   2.ค่าความดันไอ ไม่สูงกว่า 62 kpa ค่าความดันไอเป็นคุณสมบัติอย่างหนึ่งที่แสดงถึงความสามารถ ในการระเหย ซึ่งจะมีผลต่อการสตาร์ทเครื่องยนต์
   3.สำหรับคุณสมบัติอื่นๆที่ไม่ได้กล่าวถึงนี้ แก๊สโซฮอล์ จะมีคุณสมบัติเหมือนกับน้ำมันเบนซิน ออกเทน 95 ทุกประการ ยกเว้นสาร Oxygenate Compound ที่กำหนดให้มีการเติมในน้ำมันเบนซิน ไร้สารตะกั่วออกเทน 95 แต่แก๊สโซฮอล์ก็ทดแทนโดยเติม Ethyl Alcohol 95.5% ลงไป ซึ่งทำให้ ประสิทธิภาพทัดเทียมกัน
              - รถยนต์สามารถเติมแก๊สโซฮอล์ผสมกับน้ำมันที่เหลืออยู่ในถังได้เลย โดยไม่ต้องรอให้น้ำมันในถังหมด และผู้ใช้ รถไม่ต้องดำเนินการปรับแต่งเครื่องยนต์แต่อย่างใดเพราะไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อเครื่องยนต์และมี คุณสมบัติทำให้เกิดการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ที่สมบูรณ์อีกไม่นาน เมื่อพลังงานนี้สามารถพัฒนาให้มีประสิทธิภาพ ทัดเทียม น้ำมันเบนซินไร้สารตะกั่วออกเทน 95 แล้วผู้ใช้รถอย่างเราๆ ท่านๆ ก็ควรร่วมใจกันหันมาใช้ พลังงานจากพืชสีเขียว (Ethanal) ที่เกิดจากภูมิปัญญาไทยกันได้แล้ว เมื่อถึงวันนั้นประเทศไทยก็คงไม่ต้อง ง้อใครให้เสียดุลการค้าอีกแล้ว... ไชโย 

หมวด บทความทั่วไป | จำนวนคนอ่าน 8281 ครั้ง | เมื่อ : 19 ม.ค. 2550 | ส่งบทความนี้ให้เพื่อน

NEW HILUX REVO D-Cab 2x4 ราคาเริ่มต้น 881,000 บาท

พิเศษ : ขยายการรับประกัน 5 ปี หรือ 150,000 km. และฟรีค่าแรง 5 ปีหรือ 100,000 km.

ขอใบเสนอราคา