ถ้าคุณขับรถอยู่แล้วรถคุณดับ สตาร์ทเท่าไหร่ก็ไม่ติดหรือสตาร์ไม่ติดคุณจะทำอย่างไร ถ้าผู้ขับขี่ที่มีพื้นฐานความรู้ด้านช่างอยู่บ้างก็คงจะพอแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้ แต่ถ้าเป็นผู้ขับขี่มือใหม่คงจะต้องโทรตามช่าง หรือไม่ก็สอบถามผู้ที่มีความรู้เกี่ยวกับรถยนต์เพื่อที่จะทำการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าให้ขับต่อไปได้
เพราะฉะนั้นแล้วในวันนี้ ทางผู้เขียนจะมีข้อแนะนำของ
อาการเครื่องยนต์สตาร์ทไม่ติดและสตาร์ทไม่ได้แต่ละอาการ มาฝากกันครับ
บิดกุญแจแล้วเครื่องยนต์ไม่หมุนแต่ มีเสียงดังแชะ ๆ หรือไม่ดัง
ถ้าอาการนี้เกิดขึ้นกับรถยนต์ของคุณ ให้สันนิษฐานเบื้องต้นว่า แบตเตอรี่ หรือ
ไดสตาร์ทมีปัญหา ให้คุณลองบีบแตรดูอาการว่าแตรดังปกติหรือไม่? แบตเตอรี่อาจจะอ่อนเกือบหมด
ทำให้หมุนไดสตาร์ทไม่ไหว ได้แค่กระตุ้นโซลินอยด์เบา ๆ แต่หมุนไม่ไหวจึงมีเสียงแชะๆ ถ้าหากแบตเตอรี่มีไฟ
ไดสตาร์ทอาจขัดข้อง
ถ้าไดสตาร์ทขัดข้องให้ทดลองหาท่อนไม้มาเคาะไดสตาร์ท(ต้องระมัดระวังอย่าให้โดนอุปกรณ์อื่นๆด้วย)
ถ้าสตาร์ทติดแสดงว่าไดสตาร์ทสกปรก แต่หลังจากนั้นก็ต้องถอดไปทำความสะอาดด้วยนะครับ
แต่ถ้าเคาะแล้วยังไม่ทำงานก็ต้องถอดออกไปซ่อมครับ
บิดกุญแจแล้วเครื่องหมุนอืดๆ ไม่ยอมทำงานเอง ถ้าคุณได้ยินเสียงไดสตาร์ท และการหมุนของเครื่องยนต์ แต่เป็นการหมุนช้าๆ หรืออืด ๆ อาการนี้ มักจะมีปัญหามาจากแบตเตอรี่ไฟอ่อน แบตเตอรี่เสื่อมสภาพ หรือ ไดชาร์จไม่ปกติ ไม่ใช่ปัญหาที่ตัวเครื่องยนต์ อาการขัดข้องแบบนี้ถ้าเป็นระบบเกียร์ธรรมดา สามารถเข็นโดยเข้าเกียร์ 2 กระตุกติดเครื่องยนต์ได้ หรือถ้าเป็นเกียร์อัตโนมัติก็สามารถพ่วงแบตเตอรี่จากภายนอกเพื่อสตาร์ทเครื่องยนต์ให้ติดได้ครับ เมื่อเครื่องยนต์ทำงานแล้วให้ดูไฟรูปแบตเตอรี่ที่หน้าปัด ว่าสว่าง หรือเลือนราง ถ้าไฟรูปแบตเตอรี่ไม่สว่างแสดงว่าการชาร์จไฟปกติ แต่ถ้ารูปไฟแบตเตอรี่สว่างขึ้นโชว์ไม่ดับ แนะนำให้นำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อทำการตรวจเช็คการชาร์จไฟของไดร์ชาร์จโดยด่วน เพราะถ้าคุณขับรถต่อไปเครื่องยนต์อาจจะดับเองได้อีก
บิดกุญแจแล้วเครื่องหมุนเร็วด้วยไดสตาร์ท แต่เครื่องไม่ติด อาการลักษณะนี้หลายท่านอาจเข้าใจผิดว่าแบตเตอรี่เสีย หรือไดสตาร์ทเสีย เตรียมหาแบตเตอรี่มาพ่วง ทั้งที่ความจริงแล้วแบตเตอรี่ และไดสตาร์ทเป็นปกติ เพราะเมื่อบิดกุญแจแล้วเครื่องยนต์หมุนได้เร็วด้วยไดสตาร์ท แต่เครื่องยนต์ไม่สามารถทำงานหรือติดได้เอง เมื่อปล่อยการบิดกุญแจเครื่องยนต์ก็หยุดหมุนปัญหาอยู่ที่ตัวเครื่องยนต์ เพราะแบตเตอรี่และไดสตาร์ทปกติดี แนะนำให้ตรวจสอบที่ตัวเครื่องยนต์ เช่น มีไฟเลี้ยงระบบหรือไม่ ปั๊มส่งน้ำมันเชื้อเพลิงทำงานดีหรือเปล่า โดยต้องตรวจสอบระบบต่างๆ ฯลฯ อาการลักษณะนี้ยากที่จะแก้ไขด้วยตนเองได้ แนะนำให้ติดต่อศูนย์บริการเพื่อให้ช่างผู้ชำนาญการทำการตรวจสอบจะดีที่สุดครับ
อาการสตาร์ทเครื่องยนต์ไม่ติดนั้นจะเห็นได้ว่าไม่ใช่มีเพียง แบตเตอรี่หรือไดสตาร์ท เท่านั้นที่ทำให้เครื่องยนต์สตาร์ทไม่ติด ยังมีองค์ประกอบอื่นๆ ของเครื่องยนต์อีกหลายชิ้นส่วนที่เป็นต้นเหตุให้สตาร์ทไม่ติด ท้ายนี้หวังว่าผู้อ่านทุกท่านคงจะพอเข้าใจอาการเครื่องยนต์สตาร์ทไม่ติดไม่มากก็น้อย แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้า ขอให้ผู้อ่านทุกท่านโชคดีร่ำรวยทุกท่านครับ.
แก้ไขได้ไม่ยากนัก. (ถ้าวิเคราะห์ดี)
แผนก เทคนิคและฝึกอบรม
บริษัท พิธานพาณิชย์ จำกัด (กรุงเทพฯ)