นับจากนี้ที่กลุ่มประเทศสมาชิกในอาเซียนทั้ง10ประเทศ จะรวมตัวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ซึ่งจะทำให้เกิดการเคลื่อนย้ายสินค้า การบริการ การลงทุน, เงินทุน และแรงงานระหว่างประเทศอย่างเสรี ในภูมิภาคอาเซียน และเพื่อสร้างอำนาจการต่อรองทางเศรษฐกิจในเวทีการค้าโลก
สำหรับธุรกิจประกันภัยจะต้องมีการปรับตัว และเตรียมความพร้อมในหลายๆด้านเพื่อการรองรับการเปิดเสรีดังกล่าว โดยเฉพาะการพัฒนาบริการใหม่ๆ ให้สอดคล้องกับการเติบโตของภาคธุรกิจ, การขนส่ง, การเดินทาง และท่องเที่ยว ซึ่งในขณะนี้ ได้มีความร่วมมือระหว่างประเทศในอาเซียน เปิดระบบประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ สำหรับรถยนต์ผ่านแดน ตามโครงการประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับของอาเซียน
การประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับสำหรับรถยนต์ผ่านแดน เป็นอีกบริการหนึ่งที่จะอำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่เดินทางระหว่างประเทศ โดยสามารถซื้อกรมธรรม์ประกันภัยภาคบังคับของประเทศปลายทางไว้ล่วงหน้าได้จากบริษัทประกันภัย ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายในประเทศต้นทาง ก่อนนำรถเดินทางข้ามแดน ผู้เอาประกันภัยไม่ต้องเสียเวลาซื้อกรมธรรม์ที่ชายแดนเหมือนเช่นในอดีต โดยกรมธรรม์แต่ละประเทศ จะคิดอัตราเบี้ยประกันภัยและให้ความคุ้มครองตามหลักเกณฑ์ของประเทศนั้นๆ
รถที่ทำประกันภัยดังกล่าว จะได้รับสติกเกอร์กรมธรรม์ สีฟ้า (Blue Card) สำหรับติดที่กระจกหน้ารถยนต์ ดังนั้นหากเกิดอุบัติเหตุ ผู้เอาประกันภัยสามารถโทรศัพท์เข้าไปแจ้งเคลมตามหมายเลข ของแต่ละประเทศด้านหลังกรมธรรม์ได้ทันที เนื่องจากแต่ละประเทศมีการเชื่อมโยงผ่านระบบออนไลน์ ผู้เอาประกันจะได้รับความช่วยเหลือ และดูแลเรื่องค่าสินไหมทดแทนจากสำนักงานประกันภัยรถผ่านแดนแห่งชาติ ที่ได้รับการแต่งตั้งขึ้นในแต่ละประเทศ สำหรับประเทศไทยมีบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด เป็นสำนักงานประกันภัยรถผ่านแดนแห่งชาติ
อย่างไรก็ตาม เมื่อทำประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับสำหรับรถผ่านแดนแล้ว ผู้เอาประกันภัยควรแจ้งแก่บริษัทประกันภัย เพื่อขอขยายอาณาเขตความคุ้มครองในกรมธรรม์ภาคสมัครใจด้วย โดยบริษัทประกันภัย จะทำการสลักหลังกรมธรรม์ไว้เป็นหลักฐาน เพื่อให้มั่นใจว่า หากเกิดอุบัติเหตุ ทั้งรถยนต์ของผู้เอาประกันภัย หรือคู่กรณี ที่ได้รับความเสียหาย จะได้รับความคุ้มครองจากบริษัทประกันภัยในประเทศไทย สำหรับประเทศที่สามารถขยายอาณาเขตคุ้มครองเพิ่มเติมได้แก่ ลาว, กัมพูชา, เวียดนาม, พม่า, มาเลเซีย, สิงคโปร์ และจีน โดยคิดเบี้ยประกันเพิ่มเดือนละ 5% ของเบี้ยประกันภัยเต็มปี แต่รวมกันแล้วไม่เกิน 20% ของเบี้ยประกันภัยเต็มปี
ปัจจุบันการประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับสำหรับรถผ่านแดน ได้เปิดให้บริการระหว่างประเทศไทย, ลาว, เวียดนาม, พม่า, โดยคาดว่า การประกันภัยดังกล่าว จะมีส่วนช่วยส่งเสริมธุรกิจ, การขนส่ง, การเดินทาง, ท่องเที่ยว ระหว่างภูมิภาคให้ได้รับความสะดวกและรวดเร็วมากขึ้น ตลอดจนช่วยพัฒนาเส้นทางการค้า จากท่าเทียบเรือทางทะเลจีนใต้ในประเทศเวียดนาม ผ่าน ลาว ไทย ไปจนถึงท่าเทียบเรือทางทะเลมหาสมุทรอินเดียในประเทศพม่าให้เติบโต เป็นเส้นทางการค้าที่สำคัญ พร้อมเตรียมขยายบริการสู่ประเทศ มาเลเซีย, สิงคโปร์, บรูไน, ฟิลิปปินส์ และ อินโดนีเซีย ต่อไปในอนาคต
“..ประกันภัย ในต่างแดนไม่ใช่เรื่องที่ยาก หากได้ทราบ..”
ฝ่ายฝึกอบรม
บริษัท พิธานพาณิชย์ จำกัด (กรุงเทพฯ)
ขอขอบคุณรูปภาพ
cr...Thaiza.com