phithan-toyota.com | พิธานพาณิชย์ จำกัด ศูนย์บริการและจำหน่ายรถยนต์โตโยต้าทุกรุ่น

บทความ

ความเข้าใจเบื้องต้นของระบบนำทางในรถยนต์

หมวด บทความทั่วไป | จำนวนคนอ่าน 2933 ครั้ง | เมื่อ : 06 ก.ค. 2560 | ส่งบทความนี้ให้เพื่อน

                 ระบบนำทางจะคำนวณตำแหน่งปัจจุบันของรถโดยการใช้สัญญาณดาวเทียม (GPS)

ที่ได้รับการพัฒนาและปฏิบัติการโดยกระทรวงกลาโหมของสหรัฐอเมริกา

ซึ่งระบบนี้จะให้ตำแหน่งปัจจุบันของรถที่แม่นยำ  ปกติแล้วจะใช้ดาวเทียม 4 ดวง หรือมากกว่า

แต่มีบางกรณีที่ใช้ดาวเทียม 3 ดวง  อย่างไรก็ตามอาจเกิดการกำหนดตำแหน่งที่ผิดพลาดมากถึง 100 เมตรเป็นบางครั้ง 

โดยปกติแล้วตำแหน่งที่ผิดพลาดจะได้รับการแก้ไขภายในเวลา 2-3 วินาที

                  เมื่อรถได้รับสัญญาณจากดาวเทียม สัญลักษณ์  G.P.S  

จะปรากฏขึ้นบนหน้าจอ  หากมีการบดบังตำแหน่งของรถปัจจุบันที่แสดงบนแผนที่จะไม่ถูกต้อง 

เช่น อุโมงค์, อาคารสูง หรือเศษของวัตถุที่ติดอยู่บนหน้าปัดคอนโซลอาจจะบดบังสัญญาณ GPS ได้  

ดาวเทียม GPS อาจไม่ส่งสัญญาณ  เนื่องจากอยู่ในระหว่างการซ่อมแซมหรือการปรับปรุง 

ถึงแม้ว่าระบบนำทางจะได้รับสัญญาณ GPS ที่ชัดเจน ก็อาจแสดงตำแหน่งรถปัจจุบันที่ไม่ถูกต้อง

หรืออาจจะแนะนำเส้นทางที่ไม่เหมาะสมได้ในบางกรณี

 

ตำแหน่งรถปัจจุบันที่ถูกต้องแม่นยำ อาจไม่ปรากฏขึ้น    ในกรณี ดังต่อไปนี้

- เมื่อขับรถบนถนนรูปตัว Y ซึ่งมีมุมแคบ                         
- เมื่อขับรถบนถนนที่มีลมพัด
-เมื่อขับรถบนถนนลื่น เช่น ทราย, กรวด, หิมะ                
- เมื่อขับรถบนเส้นทางตรงและยาว
- เมื่อถนนปกติ และทางด่วนอยู่ขนานกัน                      
- หลังจากเคลื่อนย้ายรถด้วยเรือเฟอร์รี่หรือรถยก

- เมื่อค้นหาและพบเส้นทางที่ยาวในระหว่างการขับขี่ด้วยความเร็วสูง     
- เมื่อขับรถโดยปรับตั้งค่ามาตรฐานตำแหน่งรถปัจจุบันไม่ถูกต้อง
-หลังจากเปลี่ยนทิศทางซ้ำโดยการเคลื่อนที่รถไปทางด้านหน้าและด้านหลัง หรือเลี้ยวรถในที่จอดรถ
- เมื่อออกจากลานจอดรถที่มีหลังคาหรือที่จอดรถ
- เมื่อติดตั้งแผงบรรทุกที่หลังคา                                     
- ขับขี่โดยใช้โซ่หุ้มล้อ
- เมื่อยางสึก                                                                  
- หลังจากเปลี่ยนยาง
- เมื่อใช้ยางที่เล็กหรือใหญ่กว่ายางมาตรฐาน                  
- เมื่อแรงดันลมยางเส้นใดเส้นหนึ่งไม่ถูก

 

การนำทางที่ไม่เหมาะสมอาจเกิดขึ้นได้ในกรณี  ต่อไปนี้

 - เมื่อเลี้ยวรถที่ทางแยกโดยออกนอกเส้นทางที่แนะนำ                         
- ถ้ามีการตั้งจุดหมายไว้มากกว่า 1 จุด และได้ขับรถข้ามจุดใดจุดหนึ่งไปแล้ว     การแสดงเส้นทางย้อนกลับอัตโนมัติ จะ   แสดงเส้นทาง ที่ย้อนกลับไปที่จุดหมายก่อนหน้า
- เมื่อเลี้ยวที่ทางแยกซึ่งไม่มีการนำทาง                                                    
- เมื่อผ่านทางแยกซึ่งไม่มีการนำทาง
- ในระหว่างการนำทางเส้นทางย้อนกลับอัตโนมัติ ระบบนำทางอาจไม่สามารถทำงานกับการเลี้ยว ต่อ ไปได้
- ในระหว่างการขับรถด้วยความเร็วสูง การย้อนกลับอัตโนมัติ อาจจะใช้เวลานานในการปฏิบัติการ  ในการนำทางย้อนกลับอัตโนมัติ อาจแสดงเส้นทางที่อ้อม
- หลังจากการนำทางย้อนกลับอัตโนมัติ เส้นทางอาจไม่เปลี่ยนแปลง
- อาจแสดงจุดเลี้ยวกลับที่ไม่จำเป็น
- ที่ตั้งอาจมีหลายชื่อ และระบบจะแจ้ง 1 ชื่อ หรือมากกว่า
- อาจไม่สามารถค้นหาเส้นทางบางเส้นทางได้
- ถ้าเส้นทางไปยังจุดหมายประกอบไปด้วยกรวด, ถนนที่ไม่ได้ปูพื้น หรือทางแคบ การนำทางอาจไม่แสดง
- เมื่อบางส่วนของเส้นทางห้ามรถเข้าในเวลาที่แตกต่างกัน ในบางฤดู หรือเนื่องจากเหตุผลอื่นๆ
- ถนนหรือข้อมูลแผนที่บันทึกอยู่ในระบบนำทางอาจไม่สมบูรณ์ หรือไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด

 

และนี่คือ    ข้อมูลสำหรับความเข้าใจเบื้องต้นของระบบนำทางครับ
หากท่านผู้อ่านที่ใช้รถรุ่นที่มีระบบนำทาง
สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จากคู่มือการใช้รถรุ่นนั้นๆ ครับผม.


“หลากหลายปัจจัยในการนำทาง”
ฝ่ายฝึกอบรม
บริษัท พิธานพาณิชย์ จำกัด (กรุงเทพฯ)

 

ขอคุณภาพจาก
cr.Roojai Company Limited

 

หมวด บทความทั่วไป | จำนวนคนอ่าน 2933 ครั้ง | เมื่อ : 06 ก.ค. 2560 | ส่งบทความนี้ให้เพื่อน

NEW HILUX REVO B 4x4 ราคาเริ่มต้น 749,000 บาท

พิเศษ : ขยายการรับประกัน 5 ปี หรือ 150,000 km. และฟรีค่าแรง 5 ปีหรือ 100,000 km.

ขอใบเสนอราคา