เกียร์ธรรมดา
ข้อมูลรายละเอียด
แรงบิดซึ่งเกิดจากเครื่องยนต์ขณะที่แรงบิดที่ออกมา (แรงม้า) เพิ่มขึ้นใกล้กันเป็นสัดส่วนกับรอบเครื่อง อย่างไรก็ตามรถยนต์ต้องการแรงบิดมากเพื่อออกรถหรือไต่เขา บนภูเขา ล้อขับต้องการแรงบิดมาก ดังนั้นเราต้องมีกลไกเปลี่ยนแปลงแรงบิด ความเร็วล้อลดลงแต่แรงบิดเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม แรงบิดส่วนมากไม่จำเป็นระหว่างเดินทางด้วยความเร็วสูง ชุดเกียร์ได้ถูกจัดไว้เพื่อรองรับปัญหาอันนี้ โดยการเปลี่ยนชุดเกียร์ (อัตราทด) เปลี่ยนกำลังส่งออกของเครื่องยนต์เป็นแรงบิด อัตราทดเฟืองในห้องเกียร์จะถูกเลือกใช้ให้เหมาะสมกับสภาพการเดินทางของรถยนต์ เช่น อัตราเฟือง 4:1 เหมาะกับเกียร์ต่ำสุด ทอร์กสูงแต่อัตราเร็วต่ำและอัตราทดเฟือง 1:1 เหมาะกับเกียร์สูงสุด ทอร์กต่ำแต่อัตราเร็วสูง
เกียร์ธรรมดา จะมีชิ้นส่วนประกอบหลักดังนี้
1. เสื้อเกียร์
2. เพลารับกำลัง
3. เพลาเฟืองรอง
4. เพลาส่งกำลัง
5. ชุดซินโครเมซ
6. เฟืองเกียร์ถอยหลัง
การถ่ายทอดกำลัง
เกียร์ว่าง
กำลังจากเครื่องยนต์ส่งผ่านแผ่นคลัทช์ไปยังเพลารับกำลังเข้าห้องเกียร์ เพลารับกำลังขับเคลื่อนชุดเฟืองบนเพลาหลัก เฟืองบนเพลาหลักหมุนอย่างอิสระและไม่มีการถ่ายทอดกำลังผ่านไปยังเพลาส่งกำลัง
เกียร์หนึ่ง
เมื่อใช้เกียร์หนึ่ง ชุดซินโคเมชจะเลื่อนไปจับกับเฟืองเกียร์หนึ่ง ทำให้ได้อัตราทดเฟืองเกียร์หนึ่งกำลังจากเครื่องยนต์ส่งผ่านแผ่นคลัทช์ไปยังเพลารับกำลังเข้าห้องเกียร์ เพลารับกำลังขับเคลื่อนชุดเฟืองบนเพลาหลัก ชุดเฟืองบนเพลาหลักถ่ายทอดผ่านเฟืองเกียร์หนึ่งไปยังเพลาส่งกำลัง
เกียร์สอง
เมื่อใช้เกียร์สอง ชุดซินโคเมชจะเลื่อนไปจับกับเฟืองเกียร์สอง ทำให้ได้อัตราทดเฟืองเกียร์สองกำลัง จากเครื่องยนต์ส่งผ่านแผ่นคลัทช์ไปยังเพลารับกำลังเข้าห้องเกียร์ เพลารับกำลังขับเคลื่อนชุดเฟืองบน เพลาหลัก ชุดเฟืองบนเพลาหลักถ่ายทอดผ่านเฟืองเกียร์สองไปยังเพลาส่งกำลัง
เกียร์สาม
เมื่อใช้เกียร์สาม ชุดซินโคเมชจะเลื่อนไปจับกับเฟืองเกียร์สาม ทำให้ได้อัตราทดเฟืองเกียร์สามกำลัง จากเครื่องยนต์ส่งผ่านแผ่นคลัทช์ไปยังเพลารับกำลังเข้าห้องเกียร์ เพลารับกำลังขับเคลื่อนชุดเฟืองบนเพลาหลัก ชุดเฟืองบนเพลาหลักถ่ายทอดผ่านเฟืองเกียร์สามไปยังเพลาส่งกำลัง
เกียร์ถอยหลัง
เมื่อใช้เกียร์ถอยหลัง เฟืองพาถอยหลังจะเข้าไปขบกับกลุ่มเฟืองและเฟืองบนด้านนอกของปลอกซินโครเมช กำลังเครื่องยนต์ส่งผ่านแผ่นคลัทช์ไปยังเพลารับกำลังเข้าไปยังกลุ่มเฟือง และต่อไปยังเฟืองพาถอยหลังจนถึงเฟืองบนด้านนอกของปลอกซินโคเมช แล้วผ่านเพลาส่งกำลังออก
เกียร์สำหรับรถขับเคลื่อนล้อหลัง
แม้ว่าปรากฎการณ์และโครงสร้างของเกียร์จะแตกต่างไปตามแบบของรถยนต์เกียร์ธรรมดาปกติประกอบขึ้นด้วยส่วนประกอบต่อไปนี้
- เสื้อคลัทช์ (หัวหมู)
- เสื้อเกียร์
- เพลารับกำลัง
- เพลาเฟืองรอง และเฟืองรอง
- เพลาส่งกำลัง และเฟือง
- เฟืองเกียร์ถอย
- กลไกการเปลี่ยนเกียร์
- เสื้อท้ายเกียร์
กลไกภายในของเกียร์แบบขับเคลื่อนล้อหน้าเกือบจะเหมือนกับเกียร์แบบขับเคลื่อนล้อหลัง ดังแสดงในรูปด้านบน เกียร์แบบขับเคลื่อนล้อหน้าไม่มีเพลารองและเพลาส่งกำลัง จะขับโดยตรงกับชุดเฟืองท้าย ที่แตกต่างกับเกียร์แบบขับเคลื่อนล้อหลัง ก็คือส่วนปลายหน้าของเพลารับกำลังไม่ได้ต่ออยู่ด้วยลูกปืนที่ส่วนปลายหลังของเพลาข้อเหวี่ยง
สำคัญ - ชุดถ่ายทอดกำลังจะใช้การหล่อลื่นด้วยน้ำมันเกียร์ น้ำมันไฮปอยด์เกียร์ น้ำมันเกียร์ออโตเมติค ฯลฯ และการหล่อลื่นที่ถูกต้องใช้ตามแบบของเกียร์ หรือกลไกทำงาน ควรใช้ตามคู่มือซ่อม ดาต้าบริการหรือคู่มือประจำรถ ก่อนที่จะเพิ่มหรือเปลี่ยนน้ำมันนั้น ๆ
เกียร์อัตโนมัติ
ข้อมูลรายละเอียด
เกียร์อัตโนมัติ (A/T) นำเอาบทบาทของทั้งคลัทช์และเกียร์มาเป็นอัตโนมัติ และโดยทั่วไปประกอบขึ้นด้วย 3 ส่วน คือ
1. ทอร์คคอนเวอร์เตอร์
2. ชุดเพลนเนตตารี่เกียร์
3. ชุดไฮโดรลิคควบคุม
เกียร์อัตโนมัติที่ใช้กับรถยนต์ แบบขับเคลื่อนลอหลัง และแบบขับเคลื่อนล้อหน้าจะดูไม่เหมือกันที่ส่วนภายนอก แต่หน้าที่การทำงานของมันจะใช้พื้นฐานอันเดียวกัน
ทอร์คคอนเวอร์เตอร์
หน้าที่ของทอร์คคอนเวอร์เตอร์เหมือนกับเป็นคลัทช์อัตโนมัติสิ่งเพิ่มเติมมันจะเพิ่มแรงบิดให้กับเครื่องยนต์ ดังแสดงอยู่ด้านล่าง ทอร์คคอนเวอร์เตอร์ ประกอบด้วย ปั๊มอิมพิลเลอร์ เทอร์ไบ-รันเนอร์และสเตเตอร์ สเตเตอร์ติดตั้งอยู่ระหว่างปั๊มอิมฟิลเลอร์ และเทอร์ไบน์ ทอร์คคอนเวอร์เตอร์เติมด้วยน้ำมันเกียร์อัตโนมัติ
(ATF) และแรงบิดของเครื่องยนต์จะถูกถ่ายทอดและเพิ่มขึ้นโดยการไหลของน้ำมัน
ตัวสเตเตอร์ถูกออกแบบขึ้นให้เปลี่ยนการไหลของน้ำมันเกียร์อัตโนมัติ เพื่อที่จะถ่ายทอดแรงบิดของเครื่องยนต์ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
เพลนเนตตารี่เกียร์
ชุดเพลนเนตตารี่เกียร์ได้รับแรงขับจากเทอร์ไบร์เนอร์ ในทอร์คคอนเวอร์เตอร์และทำหน้าที่ เหมือนเป็นตัวช่วยถ่ายทอดกำลังดังแสดงด้านล่าง ชุดเพลนเนตตารี่เกียร์ประกอบด้วยเกียร์ 3 อย่าง(ริงเกียร์ พิเนียนเกียร์และซันเกียร์) และพิเนียนแครี่เออร์(ที่อยู่ของฟิเนียนเกียร์)เกียร์เหล่านี้จะรับกำลังส่งกำลัง และอยู่กับที่ถูกออกแบบมาเพื่อถ่ายทอดและกลับทางแรงบิดเครื่องยนต์ ตามปกติสองชุดของเพลนเนตตารี่เกียร์ใช้กับรถยนต์เกียร์อัตโนมัติแบบ 3 ความเร็วและ 3 ชุดของเพลนเนตตารี่เกียร์ใช้กับรถยนต์เกียร์อัตโนมัติแบบ 4 ความเร็ว
ระบบไฮโดรลิคควบคุม
ระบบไฮโดรลิคควบคุมถูกออกแบบมาเพื่อให้เป็นอัตโนมัติในการเลือก และต่อการรับกำลัง ส่งกำลัง และอยู่กับที่ของเกียร์ในชุดเพลนเนตตารี่เกียร์ และตัวแครี่เออร์ให้เป็นไปตามสภาพการวิ่งของรถยนต์ (ความเร็วรถยนต์ การเปิดของลิ้นเร่ง ภาระ ฯลฯ)
สำคัญ !
น้ำมันเกียร์อัตโนมัติมีค่าความหนืดและสัมประสิทธิ์ความฝืดแตกต่างกันมันเป็นสิ่งสำคัญมากซึ่งรถยนต์แต่ละชนิด ควรจะใช้ตามค่ากำหนดการผลิตเท่านั้น การใช้น้ำมันเกียร์อัตโนมัติผิดไม่เพียงแต่จะทำให้ประสิทธิภาพการออกแบบตกไปเท่านั้นแต่มันยังเป็นเหตุให้เกิดเสียงผิดปกติและข้อขัดข้องอื่น ๆ อีกเมื่อตรวจเช็คระดับน้ำมัน บันทึกระดับที่แตกต่างกันตามอุณหภูมิของน้ำมัน และสภาพอื่น ๆ ตรวจเช็ค
ระดับน้ำมันภายใต้สภาพที่กำหนดอ้างถึงคู่มือซ่อม
เพลากลาง
ข้อมูลรายละเอียด
เพลากลาง (รถขับเคลื่อนล้อหลัง และรถขับเคลื่อน 4 ล้อ) ถ่ายทอดกำลังจากเกียร์ไปยังเฟืองท้าย ชุดเกียร์ตามปกติประกอบอยู่บนโครงแชสซี ส่วนเฟืองท้าย และเพลาหลังจะถูกรองรับด้วยระบบรองรับ ฉะนั้นตำแหน่งของเฟืองท้ายในทางสัมพันธ์กับชุดเกียร์ มีการเปลี่ยนแปลงคงที่เมื่อรถยนต์ถูกขับเคลื่อนไป ในทางซึ่งตามสภาพของผิวถนน และขนาดของน้ำหนัก
เพลากลางจึงถูกออกแบบขึ้นในทางซึ่งให้มันถ่ายทอดกำลังได้อย่างราบเรียบจากเกียร์ไปเฟืองท้าย โดยปราศจากข้อขัดข้อง เมื่อตำแหน่งของเฟืองท้ายเปลี่ยนแปลงตามสภาพถนน และการโยนตัวของรถ ข้อต่ออ่อนจะถูกประกอบขึ้นที่ส่วนปลายของแต่ละด้านของเพลากลาง เพื่อดูดกลืนการเปลี่ยนแปลงตามแนวตั้งในมุมของระบบรองรับ และจะมีง่ามปลอกเลื่อนเพื่อดูดกลืนการเปลี่ยนแปลงระยะทางระหว่างเกียร์ และเฟืองท้าย
เพลากลางส่วนมากจะทำขึ้นด้วย ท่อเหล็กคาร์บอนกลวง มีความทนทานต่อแรงบิดหรือแรงโค้งงอสูงน้ำหนักถ่วงจะติดอยู่ด้านนอกท่อ เพื่อทำให้น้ำหนักการหมุนสมดุลย์ เพลากลางตามปกติจะเป็นท่อชิ้นเดียว มีสองข้อต่อที่สองปลายเท่า นั้น คือ เป็นข้อต่ออ่อน
ข้อต่ออ่อน
จุดประสงค์ของข้อต่ออ่อน คือ ดูดกลืนการเปลี่ยนแปลงในเชิงมุม และการถ่ายทอดกำลังอย่างราบเรียบจากเกียร์ไปยังเฟืองท้าย
มีข้อต่ออ่อนอยู่ 2 แบบ : แบบถ้วยลูกปืนแข็งข้อต่ออ่อน ซึ่งสามารถถอดแยกส่วนได้ และแบบถ้วยลูกปืนทอย ซึ่งไม่สามารถถอดแยกได้