การที่ผู้ขับขี่จะขับรถยนต์ลุยน้ำนั้น ทางผู้เขียนเชื่อเหลือเกินว่ามีความจำเป็นที่จะต้องเดินทางแน่ๆ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอันใดก็ตามผู้ขับขี่จำเป็นอย่างยิ่งจะต้องมีการพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้วว่า สามารถพอที่จะขับผ่านพ้นไปได้หรือไม่
เบื้องต้นอาจจะต้องมีการสอบถามกับบุคคลในละแวกนั้น, สอบถามจากผู้ขับขี่ท่านอื่น, อาจจะต้องลงรถเพื่อสำรวจเส้นทาง, หรือแม้กระทั่งการฟังข่าวสารการจราจร เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดทางผู้ขับขี่คงจะต้องนำมาประกอบในการพิจารณา คงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีการขับขี่อย่างทันทีทันใด ถ้าภาวะน้ำท่วมในขณะนั้นค่อนข้างที่จะลึก เหมือนดังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่ผ่านมาของประเทศไทยในเดือน ตุลาคม 2554 จะเห็นได้ว่ามีรถยนต์จมน้ำอยู่เป็นจำนวนมาก ไม่เว้นแต่แม้กระทั่งรถบรรทุกใหญ่ๆ ที่ยังจอดแช่น้ำโดยสนิท
หากมีการพิจารณาแล้วว่าสามารถที่จะขับขี่ผ่านพ้นไปได้หรือน่าจะไปได้ ก่อนออกเดินทางก่อนอื่นให้มีการเตรียมการในรถยนต์ของตนเองก่อนในอันดับแรก เป็นต้นว่า หาวัสดุปิดกั้นบริเวณกระจังหน้ารถ อันนี้ก็เพราะว่า กระแสของน้ำหรือการขับรถเดินหน้าเกิดการกระแทกกับน้ำ อาจจะโดนพัดลมเครื่องยนต์ ซึ่งจะก่อให้เกิดความเสียหายได้และปัญหาเรื่องความร้อนก็จะตามมา ไม่เพียงแค่นั้นยังป้องกันวัสดุที่ลอยมากับน้ำได้อีกทางหนึ่ง มิหนำซ้ำตัวน้ำเองก็ยังเข้าไปโดนเครื่องยนต์ได้น้อยลงอีกด้วย
สำหรับในส่วนของเครื่องยนต์อีกข้อคือ ให้ทำการจัดท่อรับอากาศเสียใหม่หรือท่อรับอากาศสำหรับเครื่องยนต์ ( ไอดี ) ให้อยู่เหนือน้ำหรือพ้นน้ำ เพราะเครื่องยนต์ต้องอาศัยอากาศเพื่อใช้ในการสันดาปของเครื่องยนต์ ถ้ามีการปล่อยให้น้ำเข้าสู่ห้องเผาไหม้ได้ การจุดระเบิดจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้ หากสภาวะมีการขับลุยน้ำก็เท่ากับว่าเครื่องยนต์ดับทันที ความเสียหายอาจจะมากกว่าที่คิด
มาดูในส่วนที่อยู่ใต้ท้องรถยนต์กันบ้าง ชิ้นส่วนที่จะกล่าวถึงคือ ท่อไอเสีย ถ้าเป็นไปได้ให้มีการต่อปลายท่อไอเสียให้มีการพ้นน้ำ เพราะไม่อย่างนั้นการคายไอเสียจะมีประสิทธิภาพที่ลดลง ก็จะส่งผลให้ประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ลดลง บางคนอาจจะสงสัยว่าเป็นไปได้ยังไง มาลองดูกันเลยครับ เคยสังเกตกันไหมครับว่า รถยนต์บรรทุกใหญ่ในสมัยก่อน (ไม่รู้ว่าสมัยนี้ยังมีอยู่อีกหรือไม่) ตรงที่ว่าจะมีการเบรกรอบของเครื่องยนต์โดยใช้ไอเสีย กล่าวคือ เมื่อเครื่องยนต์มีการทำงานและรถยนต์มีการขับเคลื่อนอยู่นั้น ระบบเบรกในรถยนต์ใหญ่นั้นหากมีการทำงานโดยอาศัยเบรกแต่เพียงอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอ ดังนั้น จึงจำเป็นที่จะต้องอาศัยการลดรอบของเครื่องยนต์โดยการปิดกันทางเดินของไอเสีย ซึ่งจะเกิดการอั้นกำลังนั่นเอง และการที่ไอเสียพ้นน้ำจึงเกิดประโยชน์ตามที่ว่ามาครับ
สำหรับผู้ขับขี่มีการเตรียมการในเรื่องของรถยนต์ดังที่กล่าวมาแล้วละก็ อันดับต่อไปคงจะต้องขึ้นอยู่กับตัวผู้ขับขี่เสียเป็นส่วนใหญ่แล้วหละ ยังไงแล้วขอให้นึกถึงสิ่งที่จะกล่าวต่อไปนี้ด้วยนะครับ
- ตัวรถยนต์จะต้องมีการเคลื่อนที่อย่างสม่ำเสมอ ถ้าคิดว่าน้ำเข้าสู่ห้องโดยสารได้
- ไม่ควรใช้ความเร็วในการขับเคลื่อนมาก เพราะคลื่นที่เกิดจากการเคลื่อนที่ของรถยนต์จะส่งผลโดยตรงต่อรถที่ร่วมใช้เส้นทางและบ้านเรือนข้าวของเครื่องใช้ในละแวกนั้นมีความเสียหาย
- บางครั้งอาจจะมีการปิดระบบปรับอากาศบ้างตามสมควร
- การเคลื่อนที่ของรถยนต์ขอให้อยู่ในแนวของเส้นทางของถนน ออกนอกเส้นทางไม่ควรเสียง
- สังเกตความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ของตนเอง เช่น เสียงดัง, ไฟเตือนต่างๆบนมาตรวัด , และอื่นๆ
- สำหรับระบบส่งกำลังแบบเกียร์ธรรมดา ไม่ควรเปลี่ยนเกียร์บ่อยครั้ง
- หากเป็นรถยนต์ที่มีการเลือกขับแบบสี่ล้อได้ ใช้การเลือกขับสี่ก็จะดียิ่งขึ้น ( กรณีเคลื่อนที่แนวทางตรง )
- ฯลฯ เช่น น้ำมันเชื้อเพลิง , สุขภาพของผู้ขับขี่ เป็นต้น
ตามที่กล่าวมาทั้งหมดแล้วนั้น ก็เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถที่จะพิจารณาในการเดินทางว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนและเพียงไรครับ กล่าวโดยสรุปจะมีประเด็นหลักมีอยู่สองประเด็นคือ
- ความพร้อมของตัวรถยนต์รวมถึงสมรรถนะด้วย
- ความพร้อมและทักษะของผู้ขับขี่รวมถึงประสบการณ์ด้วย
ดังนั้น เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่ามีความพร้อมต่อการขับรถยนต์ลุยน้ำแล้วละก็ ไปกันได้เลย และจะเป็นเรื่องที่ไม่ยากเกินไปสำหรับคุณ
ลุยน้ำได้ ง่ายนิดเดียว
แผนกเทคนิคและฝึกอบรม