ช่วงนี้เริ่มเข้าฤดูฝนแล้ว คุณลูกค้าได้มีการตรวจเช็กความพร้อมของรถท่านหรือยัง เป็นที่ทราบกันดีประเทศไทยเรานั้นมี 3 ฤดูแต่ละฤดูนั้นก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่ฤดูที่จะอยู่กับพวกเรานานที่สุดก็คือ ”ฤดูฝน” นั่นเอง ตามที่จริงแล้วการตรวจเช็กรถยนต์ไม่จำเป็นต้องตรวจเช็กเฉพาะฤดูฝนครับ แต่ควรตรวจเช็กทุก ๆ วันหรือทุก ๆ สัปดาห์ เพื่อให้รถของคุณอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานอยู่ตลอดเวลา แต่ในครั้งนี้ทางผู้เขียนจะขอลงรายละเอียดเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมของรถยนต์ในฤดูฝนเพราะหลาย ๆ ท่านอาจจะไม่มีเวลานำรถเข้ามาที่ศูนย์บริการหรือต้องการจะตรวจสอบเบื้องต้นด้วยตนเองก่อนครับ
ระบบปัดน้ำฝน เมื่อผ่านการใช้งานมาเป็นเวลานานยางปัดน้ำฝนก็อาจมีการเสื่อมสภาพไปตามอายุการใช้งาน ยิ่งถ้าจอดรถตากแดดทุก ๆ วันแล้วละก็อายุการใช้ก็จะยิ่งสั้นลงไปอีกครับ ยางปัดน้ำฝนเกิดการแข็งตัว ความยืดหยุ่นของยางปัดน้ำฝนก็จะน้อยลงไปทำให้เมื่อมีการใช้งานทำให้ปัดน้ำบนกระจกไม่หมด มีเสียงดัง ก่อให้เกิดบดบังทัศนวิสัยในการขับขี่ เพราะฉะนั้นควรเปลี่ยนยางปัดน้ำฝนใหม่เมื่อพบว่าปัดไม่สะอาด มีเสียงดัง หรือยางปัดฉีกขาดครับ
ถังพักน้ำฉีดกระจกและน้ำยา หากไม่มีการใช้งานการฉีดน้ำล้างกระจกมาเป็นเวลานานโอกาสที่น้ำฉีดกระจกจะพร่องหรือหมดก็มี เพราะบางครั้งเราใช้งานรถเมื่อกระจกไม่สะอาดก็จะกดน้ำฉีดกระจกเพื่อทำความสะอาด จนลืมตรวจเช็กน้ำฉีดกระจกไปก็เป็นได้ครับ สำหรับน้ำฉีดกระจกที่ดีควรใช้เป็นน้ำยาเฉพาะ นั่นก็คือน้ำยาทำความสะอาดกระจกครับเพราะน้ำยาตัวนี้จะมีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดกระจก ขจัดคราบสกปรกได้ดีกว่าน้ำเปล่า เพราะฉะนั้นแล้วควรตรวจเช็กน้ำยาฉีดกระจกให้อยู่ในระดับ MAX เสมอ ๆ ครับ
ระบบไฟส่องสว่างต่าง ๆ ระบบไฟส่องสว่างเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่ต้องตรวจเช็กสภาพ เช่น ไฟใหญ่หน้า ไฟท้าย ไฟหรี่ ไฟเลี้ยว ไฟถอย ไฟเบรก ไฟตัดหมอก ไฟในห้องโดยสาร ไฟต่าง ๆ เหล่านี้ต้องพร้อมใช้งานหากระบบไฟไม่พร้อมบกพร่องก็อาจเกิดอุบัติเหตุได้ครับ
ยางรถยนต์ ตรวจสอบว่ายางทุกเส้น รวมถึงยางอะไหล่มีดอกยางพร้อมใช้งาน ร่องยางหรือดอกยางควรมีความลึกไม่ต่ำกว่า 2-3 มิลลิเมตร เพราะหากดอกยางสึกและชำรุดจะทำให้รถเกิดการสูญเสียการทรงตัว การยึดเกาะถนนไม่ดีเท่าที่ควร ประสิทธิภาพการเบรกลดลง ขณะเดียวกัน ยังอาจทำให้เกิดการลอยตัวหรือเหินน้ำ เพราะดอกยางตื้นทำให้ไม่รีดน้ำ ซึ่งโดยปกติแล้วอายุการใช้งานของยางจะอยู่ประมาณ 2 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตรครับ
ลมยาง นอกจากนี้ แรงดันลมยางก็มีความสำคัญเช่นกัน รถแต่ละรุ่นมีแรงดันลมยางที่แตกต่างกัน ควรตรวจสอบคู่มือใช้งานเพื่อ การเติมแรงดันลมยางที่เหมาะสมไม่ควรเติมลมยางมากเกินไป หรือเติมน้อยเกินไป ควรเติมในระดับมาตรฐานตามที่คู่มือกำหนดครับ
>ระบบเบรก ตรวจเช็กระบบเบรก หากมีการใช้งานมาเป็นเวลานาน จนผ้าเบรกเกิดการสึกหรอต่ำกว่า 2 มิลลิเมตร ก็ควรที่จะไปเปลี่ยนผ้าเบรกใหม่ครับ แต่การตรวจเช็กระบบเบรกอาจจะต้องนำรถเข้าศูนย์บริการ เพื่อทำการตรวจเช็กต่อไปครับ
ระบบ ABS ตรวจเช็กว่าระบบ ABS ทำงานได้ปกติหรือไม่ทำงาน หากพบไฟโชว์ระบบ ABS ที่หน้าปัดหลังจากที่สตาร์ทเครื่องยนต์ติดแล้ว ควรนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อทำการแก้ใข หากใช้งานต่อไป ระบบเบรคที่ไม่มีระบบ ABS หรือระบบป้องกันล้อล็อกท่ามกลางผิวถนนที่นองไปด้วยน้ำฝน อาจจะก่อให้เกิดการลื่นไถลอย่างรุนแรงจนไม่สามารถควบคุมทิศทางของรถได้ครับ
ระบบส่งกำลัง สำหรับรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้านั้นจะมีเพลาขับอยู่ด้านหน้า ซึ่งเพลาขับจะห่อหุ้มด้วยยางหุ้มเพลาขับ หากยางหุ้มเพลาขับ ฉีกขาดก็ส่งผลให้จาระบีที่หล่อลื่นอยู่ด้านในเพลาขับเล็ดลอดออกมา และถ้าขับผ่านบนพื้นถนนที่มีน้ำท่วมขังน้ำก็สามารถเข้าไปในเพลาขับได้ ส่งผลให้เพลาขับเกิดสนิมและหากไม่มีการเปลี่ยนยางหุ้มเพลาขับ เพลาขับก็อาจจะหลุดออกมาและล้อก็จะหลุดตามมาด้วย ซึ่งถือว่าอันตรายมากครับ เพราะฉะนั้นควรตรวจเช็กระบบส่งกำลัง หากพบว่ายางหุ้มเพลาขับชำรุดควรเปลี่ยนทันทีครับเพื่อความปลอดภัยของคุณเองครับ
และทั้งหมดที่กล่าวมานี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ทางผู้เขียนตระหนักถึงอันตรายที่อาจเกิด จากชิ้นส่วนอะไหล่ของรถยนต์ที่เสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน หากไม่มีการตรวจเช็กเป็นเวลานาน ๆ ขอให้หันกลับมาตรวจเช็กรถของท่านอีกสักครั้งครับ หากพบว่าชิ้นส่วนใดชำรุดขอให้แก้ไขทันทีจะดีที่สุดครับ หากไม่ได้รับการแก้ไขอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุตามมาได้ครับ ท้ายสุดนี้ทางผู้เขียนขอขอบพระคุณที่ติดตามบทความของเราแล้วพบกันใหม่ในบทความหน้านะครับ สวัสดีครับ.
ตรวจเช็กสักนิด เพื่อความปลอดภัยของคุณและครอบครัว
ฝ่ายฝึกอบรม บริษัท พิธานพาณิชย์ จำกัด กรุงเทพฯ