phithan-toyota.com | พิธานพาณิชย์ จำกัด ศูนย์บริการและจำหน่ายรถยนต์โตโยต้าทุกรุ่น

บทความ

New Yaris 2013 สปอร์ต หรูหรา คุ้มค่า เหนือระดับ

หมวด ข้อมูล-ความรู้ทางเทคนิค | จำนวนคนอ่าน 7844 ครั้ง | เมื่อ : 20 ก.ย. 2556 | ส่งบทความนี้ให้เพื่อน

ในช่วงปีที่ผ่านมา กระแสรถ Eco car กำลังได้รับความสนใจในบ้านเราอยู่ไม่น้อย แต่เชื่อว่าหลายคนยังคงไม่กระจ่างในความหมายของ “Eco car”

Eco Car  ที่มาจากคำว่า Ecology Car  หรือรถยนต์รักษาสิ่งแวดล้อม ไม่ใช่ตามที่หลายคนเข้าใจว่าคือรถยนต์ประหยัดพลังงานหรือ Economy Car  และกว่าจะได้ชื่อว่า Eco car ได้ ต้องประกอบด้วย

     1. ความประหยัดน้ำมัน  รถยนต์อีโค่คาร์ต้องประหยัดน้ำมันตามกฏเกณฑ์ โดยต้องมีอัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงไม่เกิน 5 ลิตรต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร หรือ น้ำมัน 1 ลิตรวิ่งได้ระยะทาง 20 กิโลเมตร

     2. การรักษาสิ่งแวดล้อม  กำหนดให้รถยนต์รุ่นที่จะถูกผลิตขึ้นมาเป็นอีโค่คาร์ ต้องมีการปล่อยมลพิษปลอดภัยระดับ Euro4 คือ มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซด์น้อยกว่า 120 กรัมต่อระยะทาง 1 กิโลเมตร เท่านั้น

     3. ความปลอดภัยชั้นนำ ต้องผ่านมาตรฐานความปลอดภัยระดับสูง ตามมามาตรฐานความปลอดภัยของยุโรป (UNECE 94 และ 95) ซึ่งเป็นมาตรฐานความปลอดภัยจากการชนด้านหน้าและด้านข้าง

     4. ความเหมาะสมต่อการใช้งาน ใช้ได้ทั้งเครื่องยนต์เบนซินมีความจุไม่เกิน  1.3  ลิตร 

จะเห็นว่ารถ eco car ไม่ใช่รถราคาถูก คุณภาพต่ำอย่างที่หลายคนเข้าใจ ตรงข้ามเป็นรถที่ได้มาตรฐานและที่สำคัญรักษาสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

ที่ผ่านมารถยนต์ค่ายอื่นๆ ทยอยเปิดตัวรถ eco car ตามลำดับ หลายคนตั้งตารอว่าเมื่อไร ค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง Toyota จะคลอด Eco car กับเขาสักที  ถึงวันนี้ Toyota ได้เปิดตัว eco car ภายใต้ชื่อ New Yaris 2013 เรียบร้อยแล้ว

เรามาดูกันว่า New Yaris 2013 มีอะไรบ้างที่ไม่ธรรมดา และเหนือระดับกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกัน

เครื่องยนต์

    เครื่องยนต์แบบ 4 สูบ แถวเรียง 16 วาล์ว ขับวาล์วโดยตรง (DOHC)ว่าเป็นที่ยอดเยี่ยมแล้ว ยังได้ใส่ระบบวาล์วแบบแปรผันที่เป็น Dual VVT-I ให้อีกด้วย ปริมาตรกระบอกสูบ 1,197 CC  86 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดที่ได้ก็ไม่ธรรมดา 108 Nm. ที่ 4,000 รอบต่อนาที อัตราการสิ้นเปลือง ทำได้ถึง 20 กิโลเมตรต่อลิตร หรืออาจจะมากกว่านั้น  เป็นผลมาจากเครื่องยนต์ และการส่งกำลัง (แต่ก็ขึ้นอยู่กับผู้ขับขี่ด้วยนะครับ)

    ทางด้านการส่งกำลังแบบ Super CVT ให้ความรู้สึกถึงการส่งกำลังอย่างต่อเนื่อง เรียบลื่นไร้อาการสะดุด นอกจากนั้นยังสามารถควบคุมการเข้าเกียร์ได้ เพื่อให้การขับขี่ตามใจที่ต้องการ สังเกตได้ว่าบริเวณคอนโซลคันเกียร์ จะมีตำแหน่ง B และ S อาจจะดูไม่เหมือนกับคันเลื่อนเข้าเกียร์ทั่วไป แต่ประโยชน์ที่จะได้รับนั้น รับรองว่าตอบสนองการขับขี่ตามต้องการได้อย่างเหนือชั้น
   เกียร์ B จะช่วยในเรื่องของการชะลอความเร็ว
   ส่วนเกียร์ S จะช่วยในเรื่อง การเร่งแซง, การขับขี่เส้นทางลาดชัน และช่วยในการชะลอความเร็ว

อุปกรณ์ภายนอก

  1. ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ ที่ให้ความหรูหรา สวยงาม เพิ่มทัศนวิสัยและความปลอดภัยในยามค่ำคืนมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญไม่ผิดกฎหมาย(ไม่ใช่ไฟซีนอน)   ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์นี้จะอยู่ในรุ่น TOP ส่วนในรุ่นรองลงมาเป็นแบบมัลติรีเฟลกเตอร์
  2. กระจังหน้า มีการออกแบบที่สวยงาม แฝงไว้ด้วยความดุดันและความหรูหรา ซึ่งทุกเกรดจะเหมือนกัน แตกต่างกันในเรื่องของสีเท่านั้น
  3. กระจกบังลมหน้า  มีการออกแบบที่ไม่ธรรมดา คือ แบบลดเสียงรบกวน (Acoustic Glass) ทำให้ภายในห้องโดยสารมีความสุนทรีมากยิ่งขึ้น (เงียบ) แต่จะมีเฉพาะในรุ่น TOP เท่านั้น
  4. ฝาท้ายหรือประตูที่ 5 มีความแตกต่างกันในแต่ละเกรดรุ่น ของรุ่น TOP คิ้วฝากระโปรงท้ายจะเป็นโครมเมี่ยม รุ่นรองลงมาจะเป็นสีเงิน และรุ่นล่างสุดจะเป็นสีดำ แต่ถ้าท่านเจ้าของรถต้องการเปลี่ยน  ก็สามารถเปลี่ยนอะไหล่ได้
  5. ไฟเบรกดวงที่สาม ตัวช่วยด้านความปลอดภัย หากมองมาทางด้านข้างตัวรถที่กระจกมองข้างในรุ่น TOP สามารถปรับและพับเก็บด้วยไฟฟ้าได้ มาพร้อมกับไฟเลี้ยว
  6. ที่จับเปิดประตู เป็นแบบโครเมี่ยม ที่ให้ความหรูหราในรุ่น TOP  ส่วนตัวรองจะเป็นอีกลักษณะหนึ่ง แต่ถ้าต้องการแบบโครเมี่ยม ก็สามารถซื้อเปลี่ยนใหม่ได้
  7. ล้อ ในรุ่น TOP เป็นล้ออัลลอยด์ ขนาด 15 นิ้ว รุ่นอื่นจะเป็นล้อกระทะครับ

อุปกรณ์ภายใน

  1. พวงมาลัย หุ้มหนังตกแต่งด้วยแถบสีเงิน ที่มาพร้อมกับสวิทช์ควบคุมเครื่องเสียงที่พวงมาลัย สามารถควบคุมเครื่องเสียงอย่างสะดวกสบาย และยังสามารถช่วยในเรื่องของความปลอดภัย เพราะไม่ต้องละสายตาจากเส้นทางเพียงแค่ชำเรืองมองจะ (เฉพาะรุ่น TOP เท่านั้น) การปรับระดับพวงมาลัย สูง – ต่ำ ทำได้เหมือนกันตามสรีระของผู้ขับขี่ทุกเกรด
  2. หัวเกียร์และฐานเกียร์  มีการหุ้มหนังตกแต่งด้วยแถบสีเงิน ซึ่งจะอยู่ในรุ่น TOP ส่วนรุ่นรองลงมาจะเป็นแบบลักษณะอื่น
  3. อุปกรณ์อำนวยความสะดวก มีมาให้อย่างเหนือระดับ เทียบเท่ารถยนต์ระดับหรู คือ ระบบ smart entry และ push start  (มีเฉพาะรุ่น TOP)
  4. มาตรวัด ออกแบบใหม่ในเรื่องของสีสัน และรายละเอียดบนมาตรวัดที่เป็นแบบ Analog นั้น ทำให้มองได้อย่างชัดเจน  ย้ายตำแหน่งจากกลางรถมาอยู่หลังพวงมาลัย และยังมีจอแสดงข้อมูลการขับขี่ (เฉพาะรุ่น TOP )
  5. เครื่องเสียง สามารถรองรับการเล่นเพลงที่หลากหลายพร้อมรายการแสดงที่เป็นภาษาไทยได้อีกด้วย  
  6. ระบบปรับอากาศ ในรุ่น TOP จะเป็นแบบอัตโนมัติ สำหรับรุ่นรองลงมาเป็นแบบใช้มือ
  7. การตกแต่งภายใน ไม่ว่าจะเป็นแผงประตู ,มือเปิดประตู หรือวัสดุเบาะนั่ง มีการออกแบบได้อย่างลงตัว มีความสวยงามเรียบหรูอย่างเหนือระดับ
  8. เบาะนั่งคู่หน้า ทางด้านหลังเบาะสามารถไว้หนังสือได้ทั้ง 2 ข้าง จะอยู่ในรุ่น TOP รุ่นรองจะมีให้ข้างเดียว คือ ฝั่งผู้โดยสาร  รุ่นล่างสุดจะไม่มี
  9. เบาะนั่งแถวหลัง สามารถพับเอนได้ แตกต่างกันแต่ละเกรดรุ่นครับ แผ่นปิดสัมภาระท้ายในรุ่นที่มีให้สามารถเก็บซ้อนไว้ในเบาะนั่งหลังได้อย่างสะดวกสบาย และไม่แกะกะ ไม่เพียงเท่านี้ บริเวณเบาะนั่งแถวหลังยังสามารถติดตั้งเบาะนั่งเด็กเล็กได้ถึง 2 ข้าง
  10. รายละเอียดทางด้านอื่นๆ  เบาะผู้ขับขี่สามารถปรับระดับ สูง-ต่ำ ได้, ไฟแสดงการขับขี่แบบประหยัด (Eco meter ) , เบาะนั่งคู่หน้าแบบ WIL (ระบบปกป้องหากมีการถูกชนจากทางด้านท้ายรถ) ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีตามเงื่อนไขของรถ ECO CAR , มีการออกแบบไว้รองรับผู้โดยสารถึง 7 คน ความปลอดภัยเทียบเท่ามาตรฐาน ASEAN – NCAP ระดับ 4 ดาว ใหญ่กว่ารุ่นเดิมทุกมิติ (ยกเว้นความสูง)
  11. เกรดรุ่นและสี
        เกรดรุ่น G (TOP) , เกรด E , เกรด J , และ J ECO
        สี ได้แก่ สีขาว, สีบรอน์, เทา , ดำ และ สีใหม่ 3 สี  คือ สีแดง , สีส้ม , และสีฟ้า
       สีภายใน จะมีแค่สีเดียวครับ นั่นก็คือ สีดำ

  12. ทั้งหมดนี้ เพียงแค่น้ำจิ้มเท่านั้นครับ  ส่วนตัวจริงเสียงจริงของ New yaris 2013 คาดว่าจะเปิดตัวในไม่ช้านี้แล้ว และเมื่อถึงตอนนั้น เราจะได้พิสูจน์ด้วยกันว่า New yaris 2013 จะสมคำที่กล่าวอ้างมาข้างต้นหรือไม่?

    ดูข้อมูลรถ New yaris 2013 ใหม่ที่นี่

หมวด ข้อมูล-ความรู้ทางเทคนิค | จำนวนคนอ่าน 7844 ครั้ง | เมื่อ : 20 ก.ย. 2556 | ส่งบทความนี้ให้เพื่อน

เลือกซื้อสินค้าออนไลน์ Trumq