เป็นที่เราๆทราบกันดีอยู่แล้วว่า การจุดติดไฟหรือมีการลุกไหม้นั้น จะต้องมีองค์ประกอบหลักอยู่ 3 อย่างได้แก่ เชื้อเพลิง, อากาศ ( ออกซิเจน ), และความร้อน ( ประกายไฟ ) ซึ่งก็เป็นกฎแห่งธรรมชาติ มนุษย์เราก็ได้นำสิ่งเหล่านั้นนำมาใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อการดำรงชีวิต,การทำงาน,การสร้างสรรค์,และอื่นๆอีกมากมายไม่เว้นแต่การนำมาใช้หรือการนำหลักการต่างๆเหล่านั้นมาใช้ในรถยนต์ในรูปของการสันดาป ( การลุกไหม้ภายในห้องเผาไหม้ ) ที่มีส่วนผสมของน้ำมันเชื้อเพลิงหรือก๊าซบวกกับการดูดนำอากาศเข้าไปพร้อมการทำให้เกิดความร้อนหรือทำให้เกิดประกายไฟ( แยกออกเป็นเครื่องยนต์ดีเซลและเครื่องยนต์เบนซิน ) ส่งผลให้เกิดการเคลื่อนไหวในรูปแบบของกำลังงานได้นั่นเอง
จากหัวข้อเรื่องทีว่า เชื้อเพลิงกับประกายไฟนั้นจะอยู่ใกล้ชิดกับผู้ใช้รถยนต์ทุกท่าน เพราะรถยนต์ทุกคันจะต้องใช้เชื้อเพลิงและจะต้องมีการเติมในรูปแบบของเชื้อเพลิง (ยกเว้นรถยนต์ที่ใช้ไฟฟ้าแบบเต็มรูปแบบ100% ) ตรงจุดนี้แหละ รถยนต์ของท่านผู้อ่านจำเป็นที่จะต้องนำรถเข้าไปยังสถานีบริการของประเภทของเชื้อเพลิงนั้นๆ ในการนำรถเข้ายังสถานีบริการทางผู้ให้บริการก็จะมีข้อกำหนดหรือกฎระเบียบของการที่จะมีการเติมเชื้อเพลิงอยู่สำหรับท่านเจ้าของรถยนต์ เช่น ให้ดับเครื่องยนต์, จอดรถให้ตรงกับตำแหน่งการเติม, ห้ามใช้โทรศัพท์มือถือ, ห้ามสูบบุหรี่, และอื่นๆ ข้อกำหนดต่างๆเหล่านั้นก็เพื่อความปลอดภัยแก่ทุกๆท่าน แต่ก็มีอยู่จำนวนที่ไม่น้อยเลยที่ทำการละเลยไม่กระทำกัน บางทีที่เป็นไปได้เพราะรถยนต์สมัยใหม่นี้มีการออกแบบรถยนต์คำนึงถึงความสะดวกที่มากขึ้นแก่ผู้ขับขี่ อย่างเช่น การเปิดฝาถังน้ำมันเชื้อเพลิงจะอาศัยแค่สายดึงเปิดเท่านั้นยิ่งรถยนต์สมัยใหม่แล้วละก็ จะมีแทบทุกคัน (จะโทษผู้ผลิตรถยนต์ดีหรือเปล่าเนี่ย) ไม่เหมือนรถยนต์สมัยก่อนที่จะต้องอาศัยกุญแจในการเปิดฝาถังเชื้อเพลิง ก็เท่ากับว่าจะต้องมีการดับเครื่องยนต์แน่ๆ ท่านเจ้าของรถยนต์หลายๆท่านอาจเกรงว่า กลัวแอร์ไม่เย็นไม่อยากติดเครื่องใหม่ แต่ก็มีอยู่บ้างที่แบตเตอรี่รถยนต์ไม่ดีเลยทำให้ดับเครื่องยนต์ไม่ได้ ตรงจุดนี้อาจยกเว้นและอื่นๆอีกมากมาย แต่ถ้าทุกท่าน ปฏิบัติได้ก็เป็นผลดีทางด้านความปลอดภัยแน่ๆครับ
มีเรื่องที่มีการเกิดขึ้นมาเล่าสู่กันฟัง ดังนี้ครับ
มีบริษัทขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงยี่ห้อหนึ่ง พนักงานขับรถได้นำรถเทรนเลอร์ขับมายังช่องจอดเพี่อการตรวจระดับของน้ำมันเชื้อเพลิงว่ามีปริมาณคงเหลืออยู่เท่าใดหรือทำการอันใด ( สังเกตจากภาพวิดีโอ ) โดยที่เจ้าหน้าที่ผู้นั้น มิได้ใช้ก้านวัดที่เป็นแท่งระดับ แต่กลับอาศัยความสว่างจากโทรศัพท์มือถือเพื่อการตรวจ ก็เท่ากับว่ามีการทำให้เกิดประกายไฟ และในจังหวะนั้นมีองค์ประกอบของการจุดติดไฟครบถ้วนพอดิบพอดีนั่นเอง ทำให้เกิดการระเบิดและการลุกไหม้ติดไฟในทันที แล้วเจ้าหน้าที่ผู้นั้นก็โดนไฟคลอกอีกด้วย และนี่ก็เป็นอุทาหรณ์หนึ่งที่มีการเกิดขึ้นมาแล้วสำหรับเชื้อเพลิงที่เป็นน้ำมัน
มาต่อในเรื่องของเชื้อเพลิงที่เป็นก๊าซ LPG กันบ้าง ขอกล่าวในส่วนของที่อยู่อาศัยกันก่อนนะครับ ซึ่งก๊าซประเภทนี้มีใช้อยู่ในทุกครัวเรือน มีไว้สำหรับการดำรงชีวิตในประจำวัน สิ่งที่ได้มาแน่นอนที่สุดในเมื่อมีคุณก็ย่อมมีโทษเช่นกัน หากมีการปล่อยปละละเลย คุณสมบัติของก๊าซประเภทนี้จริงๆแล้วจะไม่มีกลิ่นแต่ในขบวนการผลิตมีการเติมแต่งเข้าไป หากมีการรั่วก็จะได้ทราบในรูปของกลิ่นนั่นเอง ดังนั้น หากมีการรั่วของก๊าซไม่ว่าจะอยู่ที่บริเวณใดอย่าทำให้เกิดประกายไฟเกิดขึ้นอย่างเด็ดขาด หากมีประกายไฟจะเกิดการลุกไหม้ในทันที เหมือนกับเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นที่ถนนเพชรบุรี่ตัดใหม่ ( เป็นสิบปีมาแล้ว ) จากรถยนต์ที่ขนก๊าซ ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์อย่างมากมาย ดังนั้นหากพบว่าได้รับกลิ่นของก๊าซห้ามทำให้เกิดประกายไฟโดยเด็ดขาดว่าจะมาจากแหล่งใดก็ตาม
ขอแนะนำในส่วนของครัวเรือนสักเล็กน้อย ดังนี้ครับ
หากในครัวเรือนได้รับกลิ่นก๊าซรั่ว ให้ระบายอากาศโดยเร็ว โดยการเปิดหน้าต่างเปิดประตู และถ้าเป็นไปได้ให้ทำการปิดวาวล์จากแหล่งที่มา สวิทซ์ของไฟต่างๆที่มีการปิดไว้อย่าเปิดและที่เปิดไว้อย่าปิดอย่างเด็ดขาด ( เพราะจะเป็นการทำให้เกิดประกายไฟ ) มิฉะนั้นเกิดสิ่งที่ไม่คาดฝันอย่างแน่นอน
อันดับต่อไปขอกลับมาในส่วนของรถยนต์กันต่อนะครับ
สำหรับท่านผู้อ่านที่ใช้เชื้อเพลิงที่เป็นก๊าซในรถยนต์หรือสองระบบ ในตอนแรกนี้จะกล่าวถึงการเติมก๊าซก่อนนะครับ ข้อกำหนดของการเติมก๊าซนั้นจะเข้มงวดกว่าการเติมเชื้อเพลิงที่เป็นน้ำมัน คือจะต้องมีการดับเครื่องยนต์แบบ100% ซึ่งรถที่เติมน้ำมันเป็นเชื้อเพลิงส่วนใหญ่ที่พบจะไม่ค่อยดับเครื่องยนต์(และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ) ส่วนข้อกำหนดอื่นๆที่เป็นข้อห้ามจะเหมือนกัน ถัดมาในส่วนการใช้งาน ท่านเจ้าของรถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงที่เป็นก๊าซนั้นจะต้องเอาใจใส่เพิ่มเป็นทวีคูณกับรถยนต์ของคุณ การเปลี่ยนอะไหล่หรือชิ้นส่วนบางตัวก็จะบ่อยขึ้นมากขึ้นเป็นสองเท่า , จะต้องมีการปรับตั้งที่บ่อยขึ้น , การตรวจสอบชิ้นส่วนจะต้องมีความเข้มงวดที่มากขึ้นละเอียดมากขึ้น และอื่นๆอีกมากมาย
ดังที่เป็นข่าวที่เคยเกิดขึ้นว่า รถยนต์เกิดไฟลุกไหม้ตามเส้นทาง สาเหตุนั้นตรวจสอบได้บ้างไม่ได้บ้าง และก็เป็นข่าวที่บ่อยขึ้น หลังจากที่ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงมีราคาที่สูงขึ้นหลายเท่าตัว ทำให้ผู้ใช้รถยนต์หันไปหาพลังงานทางเลือกที่มากขึ้น จากใช้น้ำมันอย่างเดียวมาเป็นน้ำมันกับก๊าซ ทำให้ผู้ใช้พอใจเพราะมีความประหยัดพลังงานหรือจำนวนเงินไปได้มากเลยทีเดียว ดังนั้น อยากจะเรียนท่านผู้อ่านว่า ในการติดตั้งนั้นขอให้มีการติดตั้งที่ได้มาตรฐาน, การบริการและอะไหล่, ความคงทนของชิ้นส่วน, การรับประกันหรือแม้กระทั่งทางผู้ประกอบการมีกรมธรรม์คุ้มครองให้ เป็นต้นครับ
ท้ายนี้ขอให้ท่านผู้อ่านที่ใช้รถยนต์ ไม่ว่าจะใช้เชื้อเพลิงในรูปแบบใด ขอให้ระมัดระวังกันให้มากๆนะครับ ดังที่กล่าวมาตั้งแต่ต้นครับ